กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 7 พ.ย.- กองอำนวยการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยกลาง ประสาน 14 จังหวัดภาคใต้ และประจวบคีรีขันธ์เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุดีเปรสชัน 7 – 9 พ.ย.นี้ ย้ำเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์น้ำฝนอย่างใกล้ชิดเพื่อปฏิบัติตามแผนช่วยเหลือประชาชน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนกลางมีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกของจังหวัดชุมพร คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดชุมพรในวันนี้ (7 พ.ย.) และจะเคลื่อนลงทะเลอันดามันในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.) ส่งผลให้ภาคใต้มีลมแรงและมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย ในช่วงวันที่ 7 – 9 พ.ย.นี้บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อธิบดี ปภ. กล่าวว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอ.ปภ.ก.) ได้กำชับให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในระดับพื้นที่ มุ่งเน้นการให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะสภาพอากาศ แนวโน้มสถานการณ์ภัย แนวทางการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย วิธีปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย ช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการและเครือข่าย รวมถึงให้ประชาชนติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศและการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่องให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง
นายชยพล กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ภัยจากปัจจัยปริมาณน้ำฝน น้ำท่า น้ำทะเลหนุน และความเสี่ยงภัยในพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงการปฏิบัติการและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนเผชิญเหตุ กรณีสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงให้แจ้งเตือนหน่วยปฏิบัติดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนเผชิญเหตุ รวมถึงแนวทางการจัดการสาธารณภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพให้รายงานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทันท่วงที ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย