กทม.31 ต.ค.-กทม.จับมือเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ต้นไม้ภายในป้อมมหากาฬ เบื้องต้นพบต้นไม้ใหญ่ 8 ต้นจาก18 ต้นที่ต้องหาแนวทางแก้ไข เนื่องจากรากกระทบโครงสร้างของป้อมฯ
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่สำรวจต้นไม้ภายในป้อมมหากาฬ ปราการ และพื้นที่โดยรอบ ที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างป้อมฯ เพื่อหาแนวทางการเก็บรักษาต้นไม้พร้อมกับการอนุรักษ์โบราณสถาน โดยมีสำนักผังเมือง สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศิลปากร เครือข่ายต้นไม้ในเมือง กลุ่มบิ๊กทรี (BIG TREE) รุกขกร และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมสำรวจ ณ บริเวณป้อมมหากาฬ เขตพระนคร
รองผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า วันนี้ กทม.ร่วมกับหลายหน่วยงานสำรวจต้นไม้ภายในป้อมมหากาฬและบริเวณโดยรอบที่มีผลกระทบต่อโครงสร้างโบราณสถาน จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีต้นไม้ใหญ่จำนวน 8 ต้น จากจำนวนทั้งหมด 18 ต้น ที่ต้องหาแนวทางในการดำเนินการแก้ไข เนื่องจากรากของต้นไม้สร้างปัญหาแก่โครงสร้างทำให้ป้อมหากาฬเกิดรอยร้าว และทรุดตัว โดยกทม.จะหารือและพิจารณาร่วมกับกรมศิลปากรถึงแนวทางในการเปิดหน้าดินเพื่อสำรวจรากของต้นไม้และโครงสร้างของป้อมฯ ในแต่ละจุดว่าจะใช้เทคนิคหรือวิธีการใดในการเปิดหน้าดิน
พร้อมทั้งหารือร่วมกับ รุกขกร ในการดำเนินการตัดแต่งและฟื้นฟูระบบรากทีละต้นเพื่อให้เกิดผลกระทบแก่ต้นไม้และโครงสร้างของป้อมฯให้น้อยที่สุด ซึ่งหากได้ข้อสรุปจากการสำรวจต้นไม้ทั้ง 8 ต้นแล้ว กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการอนุรักษ์และฟื้นฟู ต้นไม้และโบราณสถานต่อไป
สำหรับพื้นที่ป้อมมหากาฬ มีต้นไม้ใหญ่จำนวน 18ต้น 9 ชนิด ได้แก่ ต้นกร่าง ต้นไกร ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นไทร ต้นโพธิ์ ต้นมะขาม ต้นมะเดื่อ ต้นสัตตบรรณ และต้นหูกวาง จากผลการศึกษาวิจัย นักวิชาการได้คำนวณแล้วว่า ต้นไม้ทั้ง 18 ต้นนี้ จะสามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศโดยสามารถกักเก็บคาร์บอนได้เท่ากับ 80,925.17 กิโลกรัม หรือ 80.93 ตันต่ออายุขัยของต้นไม้จนถึงปัจจุบัน .-สำนักข่าวไทย