ผลสำรวจคนไทยเป็นหนี้นอกระบบน้อยลง

กรุงเทพฯ 12 ต.ค.-หอการค้าเผยผลสำรวจคนไทยเป็นหนี้นอกระบบน้อยลง ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่วนเทศกาลเจปีนี้ การจับจ่ายเติบโตแต่ไม่มากนัก


นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2560  ว่า ครัวเรือนปัจจุบันกว่าร้อยละ  91.1 ยังคงมีหนี้สินอยู่ มีเพียงร้อยละ  8.9 เท่านั้นที่ไม่มีหนี้สิน  โดยครัวเรือนที่ยังมีหนี้ ส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการใช้จ่ายทั่วไป รองลงมาเป็นหนี้เพื่อซื้อทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ และบ้าน รวมถึงชำระหนี้เก่า 

โดยจำนวนหนี้สินต่อครัวเรือนรวมในปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 299,266 บาท ต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้นร้อยละ  0.4 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยเป็นหนี้ในระบบ ร้อยละ  74.6 ขณะที่หนี้นอกระบบอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ  26.4 ซึ่งสัดส่วนผู้ที่เป็นหนี้ในระบบเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา และทำให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบลดลงมากสุดในรอบ 10 ปี และคาดว่าในอีก 1 ปีข้างหน้าผู้เป็นหนี้นอกระบบจะลดลง จากมาตรการในการกำกับดูแลหนี้นอกระบบของภาครัฐ โดยประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น โดยครัวเรือนมีความสามารถในการผ่อนชำระต่อเดือนอยู่ที่ 15,438.92 บาท 


ส่วนการจับจ่ายใช้สอยในปีนี้ ครัวเรือนส่วนใหญ่ตอบว่าใช้จ่ายน้อยลง ทั้งปริมาณและมูลค่า เนื่องจากเห็นว่าค่าครองชีพในปัจจุบันสูงกว่ารายได้ จึงต้องการประหยัด ซื้อเฉพาะของจำเป็น นอกจากนี้บางส่วนใช้จ่ายตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง บางส่วนมีภาระหนี้มากขึ้น มีรายได้น้อยลงและข้าวของราคาแพงขึ้น ขณะที่โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ผู้ที่ถือบัตรเห็นว่า สามารถช่วยแก้ปัญหาความยากจน เพิ่มสภาพคล่องในครอบครัว ทำให้เศรษฐกิจเกิดความคึกคัก และมีความพึงพอใจกับนโยบายดังกล่าว 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากการส่งออกและการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนมากกว่าที่คาดไว้ รวมถึงภาครัฐมีการเร่งลงทุนในช่วงปลายปี จึงปรับเพิ่มประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้เป็นร้อยละ  3.9 จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ ร้อยละ  3.6 ตัวเลขส่งออกจากร้อยละ 7.5 อัตราเงินเฟ้อร้อยละ  0.6 ส่วนปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ ร้อยละ  4.2 มาจากการส่งออกโตต่อเนื่อง เม็ดเงินจากการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานหลายแสนล้านบาท และเม็ดเงินจากการเลือกตั้งอีก 4-5 หมื่นล้านบาทที่จะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยในปีหน้า และได้ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยไปในถึงปี 2564 ไว้น่าจะอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 4-5 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปีหน้าขยายตัวเป็นร้อยละ 1.5 และในปี 63-64 จะขยายตัวเกินร้อยละ 2 ขึ้นไป


นางอุมากมล  สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ จะมีเงินสะพัดกว่า 45,081 บาท ขยายตัวร้อยละ  2.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาอาหารเจ และวัตถุดิบที่ทำอาหารเจสูงขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 36.5 จะกินเจในช่วงเทศกาลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และตั้งใจทำบุญรวม ถึงกิเจเป็นประจำอยู่แล้ว ขณะที่อีก ร้อยละ  63.5 ตอบว่าไม่กินเนื่องจากอาหารเจแพง ที่บ้านไม่มีใครกิน และมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ดี นอกจากนี้ส่วนใหญ่บอกว่า ค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจจะสูงกว่าในช่วงปกติ โดยค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจ ทั้งค่าอาหาร การทำบุญ หรือค่าการเดินทาง รวมแล้วจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10,245 บาท ต่อคน

โดยผู้ที่กินเจปีนี้ ส่วนใหญ่ตอบว่า นิยมซื้ออาหารเจปรุงสำเร็จมาบริโภค หรือ ซื้ออาหารสำเร็จรูป เช่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือโจ๊กซอง มารับประทานมากกว่า ซื้อวัตถุดิบมาทำกินเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร