fbpx

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับจีดีพีโตร้อยละ 3.7

กรุงเทพฯ  5 ต.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับจีดีพีโตร้อยละ 3.7 แรงส่งจากส่งออกและท่องเที่ยว ยอมรับเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่ทั่วถึง เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยกำลังซื้อยังต่ำ 


นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล  ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2560 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.7 จากเดิมร้อยละ 3.4 โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะขยายตัวสูงกว่าครึ่งปีแรก นำโดยการส่งออกและท่องเที่ยว  โดยการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7 จากเดิมร้อยละ 3.8 หลังจาก 8 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกขยายตัวร้อยละ 8.9 มาจากยางพารา ผลิตภัณฑ์ยางพารา และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 

อย่างไรก็ตาม  เศรษฐกิจไทยยังได้อานิสงส์จากการส่งออกน้อยกว่าประเทศในอาเซียนที่เติบโตเกินร้อยละ 10 นอกจากนี้ การส่งออกที่ขยายตัวดียังส่งผ่านไปยังเศรษฐกิจในประเทศได้ไม่ทั่วถึง ภาพรวมการจ้างงานภาคการผลิตยังลดลง ขณะที่ผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น ค่าจ้างเฉลี่ยยังทรงตัว ประกอบกับรายได้เกษตรกรเริ่มชะลอตัว ทำให้การใช้จ่ายครัวเรือนยังกระจุกตัวในสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ บวกกับเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเป็นแรงกดดันกำลังซื้อ สอดคล้องกับดัชนีภาวะการครองชีพครัวเรือนเดือนกันยายนค่อนข้างทรงตัว และในระยะ 3 เดือนข้างหน้าครัวเรือนมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าครองชีพที่จะสูงขึ้นจากการปรับราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้ของภาครัฐจะช่วยประคองการบริโภคภาคเอกชนให้ขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 3 จากเดิมร้อยละ 2.7 ส่วนแนวโน้มราคาสินค้าเกษตร ทั้งราคามันสำปะหลัง และ ยางพารา ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มราคาจะขยับขึ้น ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์


ส่วนการลงทุนภาครัฐคาดว่าจะกลับมาเร่งตัวขึ้นครึ่งปีหลังท่ามกลางงบกลางปีที่ค่อย ๆ ทยอยออกมา โดยปรับลดการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐเหลือร้อยละ 5 จากเดิมคาดร้อยละ 8.5 หลังการลงทุนภาครัฐหดตัวไตรมาส 2 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่จะเป็นปัจจัยหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2561 แต่หากจะให้เศรษฐกิจขยายตัวถึงร้อยละ 4 ต้องอาศัยการลงทุนภาคเอกชนสนับสนุนด้วย

ด้านนางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า  ยังคงประมาณการอัตราการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไว้ที่ร้อยละ 4 ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาณการเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะพลังงาน ก่อสร้าง ท่องเที่ยว และ อสังหาริมทรัพย์ ส่วนสินเชื่อรายย่อยยังเติบโตแบบประคองตัว สินเชื่อรายย่อยฟื้นตัวได้เพียงบางส่วน ต้องรอการฟื้นตัวของกำลังซื้อ ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ยังเติบโตแบบระมัดระวัง ธนาคารพาณิชย์ยังดูแลเรื่องคุณภาพหนี้ ทำให้ปรับลดอัตราการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคลเหลือทรงตัว จากเดิมคาดว่าโตร้อยละ 1 ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล สิ้นปีนี้ยังคงอยู่ที่ร้อยละ 2.98 หลังจากที่เอ็นพีแอลสูงสุดเมื่อไตรมาส 3 ร้อยละ 3.06 

ส่วนทิศทางค่าเงินบาท คาดว่าจะอ่อนค่าเล็กน้อยมาอยู่ที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปีนี้  และสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 33.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งช่วงที่เหลือของปีนี้ และปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 2561 ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งหลังปี 2561 รอการฟื้นตัวของกำลังซื้อชัดเจนขึ้น. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย