กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- กกร.ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้เป็น ร้อยละ 3.7 ถึง 4.0 ส่งออกเพิ่มเป็นร้อยละ 6.5 ถึง 7.5 เงินเฟ้อลดลง อยู่ในกรอบร้อยละ 0.5 ถึง 1.0
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุมกกร.ปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้ เพิ่มขึ้น จากเดิมที่คาดว่าจะโตร้อยละ 3.5 ถึง 4 คาดการณ์ใหม่ปรับเพิ่มเป็นร้อยละ 3.7 ถึง 4.0 และยังปรับเพิ่มประมาณการส่งออกจากเดิมอยู่ในกรอบร้อยละ 3.5 ถึง 4.5 คาดการณ์ใหม่ปรับเพิ่มเป็นร้อยละ 6.5 ถึง 7.5 เพราะการส่งออก ที่ขยายตัวดีกว่าคาดในช่วง 8 เดือนแรกของปีและยังมีแนวโน้มที่การส่งออกจะยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากอานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าหลัก
กกร.มองว่า เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่องจากแรงส่งของการส่งออกที่เติบโตสูงกว่าคาด ประกอบกับการขยายตัวของการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ตลอดจนเริ่มมีสัญญาณบวกจากการทยอยฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือกฎหมาย EEC เพราะหาออกมาบังคับใช้แล้วจะช่วยให้การลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามยังคงมีประเด็นที่ต้องติดตามโดยเฉพาะสถานการณ์ในต่างประเทศได้แก่ การเมืองในสหรัฐ การเมืองในเยอรมันนี สถานการณ์ในญี่ปุ่น รวมทั้งความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดการเงินยังปรับตัวผันผวนโดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาท
สำหรับอัตราเงินเฟ้อนั้นแม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะขยับขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีแต่เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปีแล้วคาดว่าคงจะไม่เกินร้อยละ 1.0 ที่ประชุมวันนี้จึงปรับกรอบคาดการณ์เป็น 0.5 ถึง 1.0 จากเดิม 0.5 ถึง 1.5
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ผลพวงจากนโยบายเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและการมีเงินไหลเข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้รวมถึงแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งจะปรับขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยน่าจะ อยู่ในช่วงไม่เกินร้อยละ 1.5 ต่อปี ผลจากปัจจัยดังกล่าวเชื่อว่าจะส่งผลให้ค่าเงินบาทในช่วงปลายปีอยู่ในช่วง 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ- สำนักข่าวไทย