กรมสุขภาพจิต 2 ต.ค.-กรมสุขภาพจิต ห่วงประชาชน อาจเกิดความเศร้าระลอกสอง แนะให้น้อมนำโครงการพระราชดำริ รัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติ ชี้ให้ผลต่อจิตใจดีที่สุด
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนี้ประชาชนจำนวนมากเดินทางเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา 2-3เท่าตัว หลายหลายคนไม่เคยเข้าไปกราบพระบรมศพ หรือบางคนเข้าไปกราบมากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งการได้เข้าไปกราบในพระบรมมหาราชวังอันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศจะเกิดความตื้นตันปิติสุขเหมือนได้เข้าไปใกล้ชิดพระองค์
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า การรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ วิธีการที่ดีที่สุดและให้ผลทางจิตใจสูงสุด ขอแนะนำให้ประชาชนทำกิจกรรมดี ๆ ทั้งในรูปแบบจิตอาสาหรือทำความดีเท่าที่จะทำได้ทั้งต่อตนเอง คนรอบข้างและสังคมส่วนรวม เพื่อถวายแด่พระองค์ ซึ่งตลอดพระชนม์ชีพทรงทำพระราชกรณียกิจเพื่อพวกเรามาแล้ว ดังนั้น ต้องตั้งใจจะทำต่อเพื่อให้เกิดความยั่งยืนถึงลูกถึงหลาน เพราะสิ่งที่ทรงทำมานั้น หากไม่มีใครสานต่อ สิ่งนั้นก็จะค่อยๆ หายไป หากทุกคนช่วยกันสานต่อโดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่มีกว่า 4,600 โครงการ ทั้งเรื่องน้ำ ดิน สิ่งแวดล้อม การเกษตร การส่งเสริมอาชีพ การศึกษาเป็นต้น ทุกโครงการล้วนมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้มีความกินดีอยู่ดี มีความผาสุกทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เป็นโอกาสอันดี ที่ประชาชนจะยึดช่วงเวลานี้ ลงมือปฏิบัติ ก่อนจะถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงในวันที่ 26 ต.ค.2560เปลี่ยนแปลงสรรสร้างสิ่งที่มีอยู่ให้สอดรับตามโครงการ หรือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่สามารถทำได้ คนละไม้คนละมือ เช่น อาจปลูกมะม่วงพันธุ์มหาชนกซึ่งเป็นมะม่วงนามพระราชทาน ซึ่งมีสารต้านมะเร็ง ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น สิ่งที่ได้ลงมือทำนั้น จะเป็นเสมือนสัญลักษณ์แทนพระองค์และอยู่ใกล้เราตลอดเวลา จะช่วยให้จิตใจสบายทุกครั้งที่เห็นและได้สัมผัสกับความงอกงาม โดยไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องอื่น
‘การร้องไห้ เกิดความเศร้าระลึกถึงพระองค์ สามารถกระทำได้เพื่อเป็นการระบายออก การเสียใจเป็นเรื่องธรรมดาแต่จากนั้นขอให้รีบตั้งสติตนเอง ให้ระลึกถึงคุณงามความดีของพระองค์เพื่อเป็นแบบอย่างและตั้งคำถามกับตนเองว่าวันนี้ เราทำดีปฏิบัติดี ในหน้าที่เรา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอะไรแล้วบ้าง ซึ่งจะเป็นการเตือนตนเองเสมอให้มีสติและตั้งใจประคับ ประคองตนเองและผู้อื่นด้วย แต่หากยังมีความย้ำคิดบ่อยๆเกี่ยวกับการสูญเสียพระองค์ เกิดความเศร้า ร้องไห้ทั้งวันตลอดเวลา รู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ใจ ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ควรต้องปรึกษาคนใกล้ชิดและควรพบแพทย์ประจำหน่วยพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการช่วยเหลือทันที” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว .-สำนักข่าวไทย