ศาลฎีกา 21 ต.ค. – “ยิ่งลักษณ์” ได้รับหนังสือเรียกค่าเสียหายโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านแล้ว ย้ำไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำสั่งดังกล่าว เตรียมชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อร่วมรับฟังการไต่สวนพยาน ฝ่ายจำเลย นัดที่ 4 ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ฐานความผิดปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยในนัดนี้ ศาลนัดไต่สวนพยาน 2 ปาก คือนายเกษม มกราภิรมย์ อดีตกรรมการผู้ทรงวุฒิ คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง
การเดินทางมารับฟังการไต่สวนของอดีตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ยังคงมีอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กระทรวงการคลังส่งคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายในคดีโครงการรับจำนำข้าวกว่า 35,000 ล้านบาท ว่า ได้รับหนังสือทางปกครองแล้วเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่วนจะทำอย่างไรต่อไปนั้น ขอเรียนว่าในช่วงที่คนไทยกำลังโศกเศร้าจะยังไม่ขอแถลงใดๆ จนกว่าจะถึงเวลาอันควร การออกคำสั่งดังกล่าวไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับตนเป็นอย่างมาก
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องนโยบายและยังไม่เคยมีใครถูกกระทำในเวลาอันเร่งรีบมาก่อน ดิฉันจะใช้สิทธิทุกช่องทางกฎหมายที่มีในการต่อสู้ครั้งนี้ และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาต่าง ๆ รวมถึงการใช้คำสั่งที่ไม่ถูกต้องและเป็นธรรม และจะเปิดแถลงในเวลาอันควร เพราะเป็นช่วงที่คนไทยทั้งประเทศโศกเศร้า เราคงจะไม่พูดอะไรมากในตอนนี้” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในคำสั่งทางปกครองมีกรอบเวลาให้ร้องคัดค้านต่อศาลปกครอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะทำตามข้อกฎหมาย ในทุกช่องทางที่มี เมื่อถามต่อว่าการใช้มาตรา 44 คุ้มครองเจ้าหน้าที่ในการทำงาน มองว่าไม่เป็นธรรมกับตัวเองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้าว่า ยืนยันว่าขบวนการตั้งแต่เริ่มต้นก็ไม่เป็นธรรมอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ได้ร้องขอมาแล้ว
“ใครเป็นอย่างดิฉันคงรู้ว่ามันไม่ได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน การดำเนินคดีนี้จะทำให้การบริหารนโยบายเพื่อชาวนาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง การคิดถึงเรื่องกำไร ขาดทุน รัฐบาลต่อไปคงจะดูแลประชาชนและชาวนาได้ยากขึ้น และมาตรการต่าง ๆ คงจะไม่สามารถมีได้อีกต่อจากนี้”น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย