สาวใหญ่ค้างค่าทำผม 70 บาทโดนโพสต์ประจาน

บุรีรัมย์ 22 ก.ย.-ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แจ้งความเอาผิดร้านเสริมสวย หลังค้างค่าทำผม 70 บาท แต่กลับถูกร้านเสริมสวยนำภาพพร้อมข้อความโพส์ตให้เสียหาย ด้านร้านเสริมสวยแจงทำไปเพราะโมโห เนื่องจากถูกค้างหลายครั้ง



(22 ก.ย.60) นางกนกวรรณ มณีทอง อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านด่าน ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งใน อ.บ้านด่าน ในข้อหาหมิ่นประมาท ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเจ้าของร้านเสริมสวยได้นำภาพและข้อความไปโพสต์ประณามตนเองในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย โดยนางกนกวรรณ ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณเที่ยง ได้ไปไดร์ผมที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งโดยทางร้านคิดค่าบริการ 70 บาท แต่ด้วยความรีบร้อนจะไปงานศพ จึงลืมหยิบกระเป๋าสตางค์ไปด้วย ก็เลยบอกทางร้านว่า กลับจากงานศพจะนำเงินมาจ่ายให้ทันที ซึ่งก็ทำตามที่พูดไว้ คือนำเงินมาจ่ายทันทีในเย็นวันเดียวกัน   ซึ่งทางร้านก็ไม่ได้ว่าอะไร


กระทั่งมีคนมาเล่าบอกว่า ทางร้านได้นำภาพของตนเอง พร้อมด้วยข้อความกล่าวหาในทางเสียหาย ไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ในทำนองว่า “ทำผมเสร็จ รีบวิ่งออกจากร้านโดยไม่จ่ายเงิน เหตุผลคือ รีบ ไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์มา แบบนี้หลายๆ ครั้ง” แล้วก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็จะโพสต์ในลักษณะต่อว่า พอทราบเรื่อง จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ขอให้ทางร้านลบโพสต์ดังกล่าวออก แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ จึงได้มาแจ้งความเอาผิดร้านเสริมสวยฐานหมิ่นประมาทตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ด้านนางสาวมพัสยา วันภักดี อายุ 21 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย ยอมรับว่าได้โพสต์ภาพและข้อความลงในโลกออนไลน์จริง แต่ที่ทำไปก็ด้วยความโมโหที่นางกนกวรรณ มีพฤติกรรมติดค้างเงินค่าทำผมเช่นนี้หลายครั้ง แต่หลังได้รับเงินก็ลบโพสต์ไปแล้ว แต่จะให้มาโพส์ตขอโทษคงไม่ทำ และอยากจะให้เห็นใจตนด้วยเพราะทำมาหากิน แต่พอมาใช้บริการแล้วก็ติดค้างเงินแบบนี้หลายครั้งก็ทนไม่ไหว 

ขณะที่ร้อยตำรวจเอกปรีชาศักดิ์ ศักยปรีชา พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี บอกว่า คดีนี้เมื่อมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ ก็ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งก็จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี

บึ้มสนั่นโรงพัก! มือมืดซุกระเบิดใต้รถกระบะของตำรวจ

2 เหตุไม่สงบ จ.นราธิวาส คนร้ายซุกระเบิดรถเจ้าหน้าที่ก่อนจุดบึ้ม ขณะจอดที่ สภ.ศรีสาคร ส่วนที่ อ.ยี่งอ ไฟไหม้รถปลัดอำเภอ เร่งตรวจสอบเอี่ยวป่วนใต้หรือไม่

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ