เยียวยาครอบครัวทหาร เหยื่อลอบวางระเบิดปัตตานี เสียชีวิต 4 นาย เจ็บ 5

ปัตตานี 22 ก.ย. – เกิดเหตุระเบิดทหารพรานชุดลาดตระเวน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้รถกระบะหุ้มเกราะขาดเป็นสองท่อน ทหารพรานเสียชีวิตทันที 4 นาย บาดเจ็บ 5 นาย  โดยช่วงบ่ายมีพิธีรดน้ำศพ และกองทัพบกพร้อมเยียวยาครอบครัววีรชนอย่างเต็มที่ 


เหตุระเบิดเกิดขึ้นบนถนนสาย 42 เส้นทางเจาะกือแย-สายบุรี ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ส.อ.ธีรวุฒิ ปานแก้ว หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4412 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ บอกว่าได้นำกำลัง 9 นายออกลาดตระเวนเส้นทางด้วยรถกระบะหุ้มเกราะ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุบริเวณที่มีการก่อสร้าง ผู้ก่อเหตุซึ่งหลบซ่อนอยู่ในป่าข้างทาง ได้จุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร ทำให้เกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดที่มีน้ำหนักประมาณ 80-100 กก. ทำให้รถกระบะหักเป็นสองท่อน ชิ้นส่วนกระจายออกไปไกลกว่า 100 เมตร ส่วนกำลังพลทหารพราน 4 นาย ที่นั่งอยู่ท้ายรถกระบะ ถูกแรงระเบิดชิ้นส่วนร่างกายกระจายไปคนละทิศคนละทาง เสียชีวิตทันที ส่วนอีก 5 นายได้รับบาดเจ็บ

เหตุระเบิดในครั้งนี้ผู้ก่อเหตุซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้บริเวณที่มีการก่อสร้างคูระบายน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ยากต่อการสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ และยังมีการใช้ดินระเบิดชนิดใหม่ที่ทำให้ระเบิดมีอานุภาพรุนแรงมากขึ้น ทำให้รถกระบะของเจ้าหน้าที่หักออกเป็นสองท่อน และชิ้นส่วนกระจายออกไปไกลกว่า 100 เมตร


จุดที่ผู้ก่อเหตุฝังระเบิดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างคูระบายน้ำโดยบริษัทผู้รับเหมาแห่งหนึ่ง พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ระบุว่าจะต้องตรวจสอบบริษัทผู้รับเหมาและคนงานก่อสร้างทั้งหมดด้วย เพราะเป็นผู้รู้ดีว่าจุดไหนฝังระเบิดได้ และคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้เห็นต่างในพื้นที่ด้วย จึงต้องปิดถนนสาย 42 เส้นทางเจาะกือแย-สายบุรี จนกว่าจะตรวจสอบวัตถุพยานโดยรอบทั้งหมด และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน

พิธีรดน้ำศพของวีรชนทั้ง 4 นาย จัดขึ้นที่วัดสุวรรณากร อ.หนองจิก จ ปัตตานี โดยมี พล.ต.เกื้อกูล อินนาจักร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธี ซึ่งได้มอบพวงหรีดจาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย ส่วนทหารพรานที่เสียชีวิตทั้ง 4 นาย ประกอบด้วย อส.ทพ.ปฐมพร คงสัย อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เมือง จ.ตรัง อส.ทพ.ณัฎฐพล รังสิมันตุชาติ อายุ 33 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี อส.ทพ.สุวิทย์ บุญชู อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี และ อส.ทพ.พิทักษ์ คมศิต ศักดิ์วิเศษสม อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี  กำลังพลทหารพรานเป็นกำลังพลพิเศษของกองทัพบก ครอบครัวจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยารวมแล้วไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท/ราย บรรยากาศในพิธีเป็นไปอย่างโศกเศร้า

แม้ฝ่ายความมั่นคงจะทราบข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ อ.สายบุรี และได้เตรียมป้องกันแล้ว แต่ ผบ.ฉก.ปัตตานี บอกว่าเหตุครั้งนี้สุดวิสัย ไม่เคยพบมาก่อน เพราะพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุเปลี่ยนไป เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มของนายสะการียา บาโง นายซอบือรี เจะฮะ และนายมาหามะ สะอิ ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในบัญชีที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังติดตามตัว. – สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง