วอนช่วย! อดีต อส.ตำรวจบ้านสุราษฎร์ธานีป่วยมะเร็ง เมียหาเงินเลี้ยงลูก 4 คน

สุราษฎร์ธานี 21 ก.ย. – อดีตอาสาสมัครตำรวจบ้าน จ.สุราษฎร์ธานี วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ ปัจจุบันป่วยโรครุมเร้า ทั้งมะเร็ง เบาหวาน ความดัน ทำให้ออกไปหางานทำไม่ได้ เป็นภาระภรรยาช่วยหาค่าใช้จ่ายดูแลครอบครัว โดยเฉพาะลูก 4 คนที่ยังเล็ก


ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 177 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก มีนายเติม เขียวอ่อน อดีตอาสาสมัครตำรวจบ้านสังกัด สภ.กาญจนดิษฐ์ ฐานะยากจน ป่วยหลายโรค ทั้งมะเร็ง ความดัน เบาหวาน ไขมัน และโรคสะเก็ดเงิน วอนช่วยเหลือ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบบ้านมีลักษณะเพิงพัก มีคนอาศัยอยู่ในบ้าน 6 ชีวิต 

นายเติม เล่าว่า ก่อนหน้านี้อยู่ อ.กาญจนดิษฐ์ ทำงานรับจ้างทั่วไป มีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว และความที่ชอบช่วยเหลือสังคม จึงไปสมัครเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้านตั้งแต่ปี 2555 แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ป่วยด้วยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จนลุกลามเป็นโรคมะเร็ง จึงยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นอาสาสมัคร และย้ายครอบครัวมาอาศัยที่ดินของพี่สาวปลูกเพิงพักอยู่ เพราะทำงานไม่ได้เหมือนเดิม ต้องอาศัยเงินจากภรรยาที่ไปรับจ้างทั่วไปเก็บของเก่าขาย แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอรายจ่าย เพราะมีลูก 4 คน คนโตเป็นผู้ชายอายุ 13 ปี เรียน ม.1 คนที่ 2 เป็นผู้หญิง อายุ 10 เรียน ป.4  คนที่ 3 เป็นผู้หญิง อายุ 9 ปี เรียน ป.3 และคนที่ 4 เป็นผู้ชาย อายุ 1 ปี 11 เดือน 


นายเติมบอกว่า ตอนนี้ยังยิ้มสู้ พยายามไม่เครียด ห่วงแต่เด็ก ๆ ปัจจุบันมะเร็งลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองโคนขาหนีบ ส่วนโรคอื่นๆ ที่ยังรุมเร้าก็พากันกำเริบ โดยเฉพาะโรคสะเก็ดเงินที่มีอาการคันมาก แถมทุกวันตนต้องขับซาเล้งไปฉายแสงที่ศูนย์มะเร็งในตำบลระยะทางไปกลับกว่า 120 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องไปฉายแสงถึง 30 ครั้ง ตามแพทย์สั่ง ขณะนี้ผ่านไปแล้ว 11 ครั้ง ลูกชายหญิงต้องสลับกันหยุดเรียนนั่งรถไปเป็นเพื่อน หากจะไปรถโดยสารประจำทางก็สู้ไม่ไหว เพราะเสียเงินค่าโดยสารครั้งละเกือบ 200 บาท ผู้มีจิตศรัทธาโทร 0-81187-0827 (นายเติม) หรือไปที่บ้านพักของนายเติมก็ได้ ตั้งอยู่ด้านหลังโรงเรียนบ้านคอกช้าง ถนนดอนสัก-บ้านใน หมู่ที่ 5 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี . – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย