บุรีรัมย์ 25 ธ.ค. – เมื่อ 4 เดือนก่อน ที่บุรีรัมย์ มีเหตุนักเรียนหญิง ม.6 ถูกสาดน้ำกรดจนเสียโฉมทั้งตัว แม้จะจับผู้ก่อเหตุได้ 2 คน แต่ไร้การเยียวยา ผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือ เพื่อกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
จากกรณีนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ถูกน้ำกรดสาด ขณะนั่งกินข้าวอยู่กับยาย และน้าชาย ภายในร้านอาหารตามสั่ง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดครอบครัวออกมาขอความช่วยเหลือ โดยคุณแม่เล่าว่า ลูกสาวต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์นานเกือบ 4 เดือน แม้จะกลับมาอยู่บ้านได้แล้ว แต่ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป เพราะฤทธิ์ของน้ำกรดทำให้ใบหน้าเสียโฉม หูซ้ายขาด ตาซ้ายเกือบบอดมองเห็นไม่ชัด แผ่นหลัง หน้าอก แขน ขามีรอยแผลเป็นคล้ายไฟไหม้เกือบทั้งตัว โดยเฉพาะดวงตาที่แม่ต้องคอยหยอดตาทำความสะอาดให้ทุกวัน และที่น่าเป็นห่วงคือสภาพจิตใจ เพราะทั้งยายและแม่ต้องคอยให้กำลังใจ กลัวจะรับไม่ได้และอาจคิดสั้นส่วนตัวแม่เองก็ต้องออกจากงาน มาดูแลลูก จนขาดรายได้ อยากพาลูกไปศัลยกรรมเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ก็ไม่มีเงิน
ด้านน้องผู้บาดเจ็บ บอกว่าสภาพร่างกายและจิตใจย่ำแย่มาก ไปเรียนก็ไม่ได้ กลัวจะจบไม่ทันเพื่อน อยากวิงวอนให้ผู้ใจบุญช่วยเหลือพาไปศัลยกรรมใบหน้าให้สามารถออกไปใช้ชีวิตได้เหมือนคนอื่น ที่สำคัญอยากจะเรียนต่อจะได้พึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต
ส่วนความคืบหน้าคดี ตำรวจ สภ.นางรอง จับกุมตัว นายเจษฎาภรณ์ อายุ 21 ปี และนางสาวอังคณา อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ได้ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม โดยมีหลักฐานภาพวงจรปิดตามจุดต่างๆ ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลกับนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ทราบว่า คดีนี้พนักงานอัยการ ยื่นฟ้องในข้อกล่าวหา “พยายามฆ่า” ซึ่งจำเลยทั้งสองคนให้การปฏิเสธ และศาลจะนัดอีกครั้งในวันที่ 16 มกราคม ปีหน้า เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมาตรวจพยานหลักฐาน ส่วนตัวทนายอั๋นยังมั่นใจว่าพยานหลักฐาน น่าจะเพียงพอเอาผิดจำเลยทั้งสองได้ .-สำนักข่าวไทย