นายกรัฐมนตรีเตรียมนำทีมครม.ลงพื้นที่ภาคกลาง

กรุงเทพ 17ก.ย.-นายกรัฐมนตรี เตรียมนำทีม ครม. ลงพื้นที่ภาคกลางและประชุม ครม.นอกสถานที่ 18 – 19 ก.ย. นี้ ตั้งเป้าพัฒนาสู่มหานครที่ทันสมัย เป็นฐานการเชื่อมโยงไทยสู่เส้นทางขนส่ง 2 ฝั่งทะเล 


พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมนำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ภาคกลาง เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมรับฟังเสียงจากพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเข้าร่วมการประชุม ครม. นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ณ จ.พระนครศรีอยุธยา ในระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย.60 

“ที่ผ่านมารัฐบาลได้ส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งเปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำ อาทิ การจัดที่ดินทำกินแก่ราษฎรยากไร้พร้อมส่งเสริมและพัฒนาอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอ้อยพันธุ์ดี พร้อมทั้งขยายพันธุ์อ้อยปลอดโรคสู่เกษตรกร พัฒนาขีดความสามารถ SMEs ในการแปรรูปการเกษตรและสร้างมูลค่าเพิ่มแบบครบวงจร รวมถึงโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งใน 7 ลุ่มน้ำหลักของภาคกลาง ได้แก่ การก่อสร้างและปรับปรุงแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทานกว่า 200,000 ไร่ มีผู้ได้ประโยชน์กว่า 155,000 ครัวเรือน ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ขุดลอก กำจัดวัชพืช ให้เก็บกักน้ำได้มากขึ้น มีพื้นที่เกษตรได้ประโยชน์ราว 39,000 ไร่ พัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ประชาชนได้ประโยชน์ 8,300 ครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่เกษตรกว่า 100,000 ไร่ ขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อน้ำอุปโภคบริโภคและก่อสร้างระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่มให้แก่โรงเรียนรวม 362 แห่ง และกำลังดำเนินโครงการขุดดินแลกน้ำโดยร่วมกับภาคเอกชนปรับปรุง หรือ สร้างแหล่งเก็บน้ำในพื้นที่ขาดแคลนด้วย

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในฐานะที่เมืองโบราณในพระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลก ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาด้านความเป็นระเบียบและความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว รัฐบาลจึงจัดทำโครงการประชารัฐ เนรมิตอยุธยา โดยบูรณะโบราณสถาน ต้นไม้ ส่งเสริมการเดินทางโดยจักรยาน เรือ รถราง สร้างจุดแวะพัก และดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งไปยังแหล่งท่องเที่ยวเมืองอื่น ๆ เช่น โครงการมอเตอร์เวย์สาย บางปะอิน-นครราชสีมา บางใหญ่-กาญจนบุรี และก่อสร้างรถไฟทางคู่ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มาบกะเบา-ชุมทางจิระ ลพบุรี-ปากน้ำโพ เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการดูแลรักษาความสะอาด รัฐบาลได้สร้างระบบฝังกลบขยะมูลฝอยอย่างถูกหลักวิชาการ และขนย้ายขยะสะสมกว่า 2 แสนตันที่เป็นปัญหาหมักหมมมานานกว่า 10 ปีในพื้นที่วิกฤตภาคกลางได้สำเร็จ และล่าสุดได้นำร่องก่อสร้างศูนย์บริหารจัดการขยะแบบครบวงจรที่บ่อขยะกลางทุ่ง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา


พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับการประชุม ครม. นอกสถานที่ในครั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าชูทิศทางการพัฒนาภาคกลางสู่มหานครที่ทันสมัยและเป็นฐานการเชื่อมโยงประเทศไทยสู่เส้นทางขนส่ง 2 ฝั่งทะเล รวมทั้งจะเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก บรรเทาความเสียหายและความเดือดร้อนจากน้ำท่วมน้ำแล้งให้แก่ประชาชน ตลอดจนให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยจากพายุเซินกาและตาลัส และสนับสนุนการฟื้นฟูอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ อย่างครบวงจรด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]