ทำเนียบฯ 8 ต.ค.- รัฐบาล แจงข่าวไม่โอนเงินเข้าบัญชี หากผู้สูงอายุไม่ไปรายงานตัว พร้อมยืนยันจ่ายเบี้ยตามหลักเกณฑ์เดิม
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธกรณีที่มีการแชร์ข้อความในไลน์ รัฐบาลจะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 100 บาท ให้กับทุกคน และให้ผู้สูงอายุรีบนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ไปรายงานตัวที่ อบต. หรือสำนักงานเขต ภายในเดือน ต.ค.นี้ หากไม่ไปรายงานตัวจะไม่ได้รับเงินโอนเข้าบัญชี ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนแล้ว ยังคงได้รับเบี้ยยังชีพตามปกติ และไม่ต้องไปรายงานตัว ส่วนยอดเงินที่ได้รับนั้น ทุกคนสามารถตรวจสอบได้จากการอัพเดทบัญชีธนาคารที่ได้แจ้งไว้ หรือติดต่อที่ เทศบาล อบต. หรือสำนักงานเขต ที่ตนเองลงทะเบียน
“โดยผู้ที่มีอายุ 60 – 69 ปี รับเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน อายุ 70 – 79 ปี 700 บาทต่อเดือน อายุ 80 – 89 ปี 800 บาทต่อเดือน และอายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาทต่อเดือน” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่ในส่วนของผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย จำนวนกว่า 4 ล้านคน รัฐบาลได้จัดสรรเงินเพิ่มให้ 50 – 100 บาทต่อเดือนต่อราย เนื่องจากมีผู้สูงอายุจำนวนหนึ่ง บริจาคเงินกลับคืนกองทุนผู้สูงอายุ โดยจะจ่ายเงินทุกวันที่ 15 ของเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.61 ไปจนถึง 15 มิ.ย.62 โดยผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 100 บาท และผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 50 บาท
“นายกฯ ได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อป้องกันความสับสนที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลจะดูแลผู้สูงอายุให้ดีที่สุด” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว .-สำนักข่าวไทย