พรรคประชาธิปัตย์ 10 ก.ย.-นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำพิพากษากลางของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)โดยมิชอบ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะว่า เมื่อพิจารณาเนื้อหาสาระอย่างละเอียดแล้วจะพบความเชื่อมโยงของจำเลยผู้กระทำผิด ทั้งรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง และพ่อค้านักธุรกิจ อย่างชัดเจนว่าร่วมมือเอื้อประโยชน์ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบมีการปฏิบัติหน้าที่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อทุจริตหลายขั้นตอนถึงแม้จะศาลจะมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดให้จำคุกคนละหลายสิบปี แต่จำเลยก็ยังมีสิทธิอุทธรณ์ได้ อย่างไรก็ดีคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐนี้ มีจำเลยทั้งหมด 28 คน มีจำเลยหนีคดีไป 2คน เป็นการหนีคดีตั้งแต่มีการพิจารณาคดีครั้งแรก จนถึงวันอ่านคำพิพากษา จำเลยที่หนีคดีก็ไม่มาศาลจนมีการออกหมายจับ
นายองอาจกล่าวว่าหนึ่งในสองจำเลยที่หลบหนีคดีคือ พ.ต.นพ.วีรวุฒิ วัจนะพุกกะ ถือเป็นตัวละครสำคัญในคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ที่สืบเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่ง พ.ต.นพ.วีรวุฒิ เคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผลจำเลย ที่1 พอมีการปรับคณะรัฐมนตรีให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จำเลยที่ 2 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ.ต.นพ.วีรวุฒิ วัจนะพุกกะ ก็มาเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวเป็นจำนวนมาก เป็นกรรมการคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เป็นอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวหลายชุด ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เชื่อมโยงให้เกิด “ห่วงโซ่ทุจริต” ของการระบายข้าวจีทูจีได้แต่ปรากฏว่านับตั้งแต่มีการออกหมายจับบุคคลนี้ ยังไม่ปรากฏว่ามีความพยายามจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามตัวบุคคลนี้มาดำเนินคดีแต่อย่างใด จึงขอฝากให้ทางตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตัวจำเลยในคดีระบายข้าวจีทูจี ที่ยังหลบหนี ตาม หมายจับอยู่ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร่งด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย