เร่งหาพยานเอาผิดเจ้าของสุนัข

9  ก.ย. – เรื่องราวของนักศึกษาแพทย์ ที่ได้ว่าจ้างรถบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง ให้นำสุนัขพันธุ์ปอม ส่งปลายทาง จังหวัดนครราชสีมา และสุนัขตาย นักศึกษาแพทย์คนนี้จึงเรียกร้องเงินค่าประกันกับบริษัทรถขนส่ง  แต่เมื่อได้นำสุนัขไปผ่าพิสูจน์ กลับพบว่ามีเม็ดยาจำนวนมากตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารของสุนัข เรื่องจึงแดงขึ้นมาว่าสุนัขน่าจะถูกวางยา


สัตวแพทย์หญิงอนงค์นาถ สุตธรรม เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพชร จังหวัดนครราชสีมา ผู้ผ่าพิสูจน์สุนัขดังกล่าวเปิดเผยว่า เม็ดยาที่พบตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร เป็นเม็ดยาสีขาว ไม่ทราบชนิด 10 กว่าเม็ด และเป็นเม็ดยาลดความดัน 3 ถึง 4 เม็ด แต่เมื่อสอบถามกับนักศึกษาแพทย์เจ้าของสุนัข กลับบอกว่าเป็นวิตามิน ที่ป้อนให้สุนัขกินก่อนเดินทาง ตนจึงลงความเห็นสาเหตุการตายของน้องหมาในเอกสาร ระบุว่าตายจากได้รับยาเกินขนาด ทำให้เกิดภาวะความดันลดลงเฉียบพลัน สัตวแพทย์หญิงอนงค์นาถ กล่าวว่านักศึกษาแพทย์กำลังพยายามจะหาข้อมูลโต้แย้ง ว่ายาในกระเพาะน้องหมา เป็นยาวิตามินจริง และเตรียมจะแถลงข่าวในวันอังคารนื้ ซึ่งตนได้นำเม็ดยาที่พบทั้งหมดส่งให้ตำรวจแล้ว 

ด้านนายพจวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา เห็นว่ากรณีนี้อาจจะเข้าข่าย พ.ร.บ. ทารุณกรรมสัตว์ จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ ให้ดำเนินการตามกฎหมายบนฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์แล้ว


ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง กล่าวว่าจากนี้ จะส่งเม็ดยาไปตรวจพิสูจน์  พร้อมสืบสวนข้อเท็จจริง โดยจะเรียกสัตวแพทย์ผู้ผ่าซากสุนัข พนักงานขับรถบริษัทขนส่งสัตว์ รวมถึงตัวนักศึกษาแพทย์มาสอบปากคำ ว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

ขณะที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ ว่ากำลังเร่งหาพยานเชื่อมโยง เพื่อจะดำเนินคดีกับนักศึกษาแพทย์คนนี้ ซึ่งพบว่านักศึกษาแพทย์คนดัวกล่าว ได้ให้บริษัทขนส่งมารับสุนัขย่านลาดพร้าว 18 เพื่อส่งไปจังหวัดนครราชสีมา แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าภาพถูกลบไป จึงเตรียมนำพยานบุคคล พนักงานบริษัทขนส่งที่ไปรับสุนัขมาให้ปากคำกับตำรวจ เพราะพยานอ้างว่าเห็นเหตุการณ์ ขณะที่สุนัขถูกป้อนยา โดยนักศึกษาแพทย์ จากนั้นก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานประสาน ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง เจ้าของพื้นที่ต่อไป ส่วนข้อหาปลอมแปลงเอกสารใบชันสูตร และฉ้อโกง ต้องรอให้บริษัทขนส่งและสัตวแพทย์ผู้ชันสูตรในฐานะผู้เสียหาย  เข้าแจ้งความ ล่าสุดตำรวจสุทธิสาร ยังพบพิรุจของนักศึกษาแพทย์ผู้นี้ ที่ไปเช้าโรงแรมรายวัน เมื่อ 5 กันยายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ สน.บางซื่อ ด้วย

นายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า เรื่องนี้มหาวิทยาลัยรับทราบแล้ว และนายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะบดีแพทยศาสตร์ จะเชิญผู้ปกครองและนักศึกษาแพทย์คนนี้ มาสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันจันทร์นี้  ตนเห็นว่าผลการสืบสวนยังไม่ออกมา จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับนักศึกษาด้วย ส่วนการลงโทษของมหาวิทยาลัย มีตั้งแต่พักการเรียน ให้พ้นสภาพการเป็นนึกศึกษา รวมถึงการลงโทษตามกฏหมายบ้านเมือง 


ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา สัตวแพทย์หญิงภัทรนันท์ สัจจารมย์  ตัวแทนกลุ่มวอชดอก เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.สุทธิสารให้ดำเนนินคดีอาญา ข้อหาทารุณกรรมสัตว์ กับนักศึกษาแพทย์คนนี้  ขณะที่ได้มีตัวแทนจากบริษัทจันทร์สว่างขนส่ง ซึ่งเป็นบริษัทรับขนส่งสุนัข 1 ตัวให้กับนักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เข้าแจ้งความข้อหาพยายามฉ้อโกง กับนักศึกษาแพทย์คนนี้ด้วย  โดยตัวแทนบริษัทจันทร์สว่างขนส่ง ระบุว่านักศึกษาแพทย์ให้นำสุนัขจากโรงแรมย่านลาดพร้าว 18 ไปส่งที่จังหวัดนครราชสีมา และต่อมาเจ้าของสุนัขติดต่อมาว่าสุนัขมีอาการป่วยหนัก ถูกนำไปรักษาในโรงพยาบาลสัตว์และเสียชีวิต แต่บริษัทปฏิเสธ เนื่องจากสุนัขไม่ได้เสียชีวิตจากการขนส่ง ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการประกันภัย จนกระทั่งมีกระแสข่าวนี้ออกมา ซึ่งพบว่า ผู้ว่าจ้างขนส่งสุนัขเป็นคนๆเดียวกัน พฤติการณ์คล้ายกัน จึงเข้าให้ข้อมูลกับกุมวอชดอก 

สัตวแพทย์หญิงภัทรนันท์ ชี้นักศึกษาแพทย์คนนี้ มีพฤติกรรมวางยาสุนัขตัวเอง หวังเอาเงินประกันภัยจากบริษัทขนส่ง โดยพบเจตนาชัดเจน และยังพบว่านักศึกษาคนดังกล่าวมีความพยายามให้โรงพยาบาลสัตว์ ออกใบรับรองการตายว่าไม่ทราบสาเหตุ จนโรงพยาบาลต้องไปลงบันทึกเป็นหลักฐาน ที่สถานีตำรวจ  ขณะที่เจ้าของฟาร์ม ต้นทางการซื้อขาย ออกมาระบุว่านักศึกษามาซื้อสุนัขราคา 7,500 บาท แต่กลับให้เขียนในใบเสร็จเป็น 45,000 บาท  อ้างจะเอาไปบอกแฟนว่าหมาราคาแพง แต่กลับนำใบเสร็จไปวางเงินค้ำประกันกับบริษัทขนส่ง เพื่อเรียกเงินประกันภัย 4 หมื่นบาท  ด้าน  พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผู้กำกับ สน.สุทธิสาร เตรียมออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำ ส่วนนักศึกษาแพทย์คนดังกล่าว คาดจะออกหมายเรียกในสัปดาห์หน้า. -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย