ดีเอสไอ 6 ก.ย.-พนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตปล่อยกู้แบงค์ กรุงไทย ยังไม่สรุปสำนวนคดี เร่งรัดสอบหาหลักฐานเพิ่มอีกหลายประเด็น แต่ยังไม่เรียก “พานทองแท้”มาให้ปากคำ ยันไม่ยื้อเวลาให้คดีหมดอายุความปีหน้า
นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 กล่าวถึงผลประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มกฤษดาธานนท์ ว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อร่วมตรวจสอบหลักฐานในสำนวนคดีตามที่การประชุมครั้งที่ผ่านมา มีมติให้สอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็น ซึ่งวันนี้ก็พบว่ามีบางจุดยังต้องสอบสวนเพิ่มและหาพยานหลักฐานมาเสริมอีก เพื่อให้ได้รายละเอียดให้รอบคอบ โดยเฉพาะหลักฐานที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน ต่อ เนื่องกับคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย, เส้นทางการเงิน รวมถึง ถ้อยคำของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตรมาสอบปากคำในชั้นนี้
ทั้งนี้ ยืนยันการดำเนินการพิจารณาสำนวนคดีเป็นการดำเนินการร่วมกันทุกฝ่าย ไม่มีการตั้งธง ว่าจะต้องฟ้อง ตามที่มีเพจดังตั้งข้อสังเกต เพราะการสอบสวน ว่ากันตามพยานหลักฐาน ต้องอธิบายสังคมได้ว่าผิดเพราะอะไรหรือไม่ผิดเพราะอะไร เพราะการทำหน้าที่ทางด้านกฎหมาย ถ้าไม่มีหลักฐานแล้วไปดำเนินการสั่งฟ้องพนักงานจะผิดเอง
ทั้งนี้ ได้เร่งรัดพนักงานสอบสวนให้เร่งดำเนินการซึ่งมีกำหนดกรอบช่วง เวลาการทำงานที่ชัดเจน เนื่องจากคดีนี้จะหมดอายุความในปีหน้า ซึ่งจะ ต้องทำคดีให้แล้วเสร็จก่อนหมดอายุความอย่างแน่นอน เพราะ ปล่อยให้คดีขาดอายุความพนักงานก็จะมีความผิดด้วยเช่นกัน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเวลาของพยานที่จะเรียกสอบว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ไม่มีการยื้อเวลาแน่นอน
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าหากมีการสั่งฟ้องในคดีนี้จะมีพนักงานสอบสวนบางคนจะลาออกจากราขการเพราะเกรงจะถูกดำเนินคดีฐานความผิดมาตรา157 นายขจรศักดิ์ ปฏิเสธว่า ไม่มีการพูดถึงในคณะพนักงานสอบสวน แต่ยอมรับ มีความเห็นต่างในบางประเด็น เป็นเรื่องปกติที่สามารถมีมุมมองที่ต่างกันได้ ในแง่มุมของกฎหมายต่างๆ แต่สุดท้าย ต้องยึดเสียงข้างมากที่ให้ความเห็นอย่างมีเหตุผลตามกรอบของกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย