ก.พลังงานไม่เดินหน้า ”สตึงมนัม” หาก ก.เกษตรฯ ยืนยันชัดมีน้ำเพื่ออีอีซี

กรุงเทพฯ 5 ก.ย. – ก.พลังงานออกโรงแจงโรงไฟฟ้า ”สตึงมนัม” หลังนายกฯ สั่งชะลอโครงการ พ้อไม่ใช่เจ้าของโครงการ ดำเนินการตามนโยบายภาครัฐ รอ “มท.-เกษตรฯ-ก.ทรัพยากร” ยืนยันชัดเจนมีน้ำป้อนพื้นที่อีอีซี ก็พร้อมยุติโครงการ  


นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยชะลอโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัม ขนาด 24 เมกะวัตต์ ในประเทศกัมพูชาออกไปก่อน เพื่อรอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับไปศึกษาการบริหารจัดการน้ำให้เกิดความชัดเจนว่าความต้องการใช้น้ำและแหล่งน้ำในประเทศจะมีเพียงพอต่อความต้องใช้ในระยะยาวหรือไม่ หลังกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่าน้ำมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ในช่วง 12 ปีนี้ ซึ่งทางกระทรวงพลังงาน ไม่ใช่เจ้าของโครงการ ถ้าไม่ต้องการโครงการนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น โดยขณะนี้ทางกระทรวงพลังงานสอบถามไปยังกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าจะดำเนินโครงการนี้หรือไม่ โดยต้องยืนยันว่าถ้าไม่มีโครงการนี้แล้วโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) จะใช้น้ำจากที่ใด 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะทำงานศึกษาแนวทางการผันน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านได้ประชุมร่วมกันหลายครั้งมีผู้แทนจากหลายกระทรวงเข้าร่วมให้ข้อมูล ซึ่งพบว่ามีความต้องการใช้น้ำภาคตะวันออกจะมีประมาณ 12,000 ลูกบาศ์เมตร ปัจจุบันยังขาดน้ำอยู่ 6,000 ลูกบาศก์เมตร โครงการ  “สตึงมนัม” อาจจะมาช่วยได้ส่วนหนึ่ง คือ 300 ลูกบาศก์เมตร กระทรวงพลังงานจึงเดินหน้าศึกษาโครงการตามคำสั่งการของรัฐบาล 


“โครงการนี้ไม่ได้มีส่วนสำคัญในการเสริมความมั่นคงด้านไฟฟ้า เพราะรับซื้อเพีง 24 เมกะวัตต์ แต่จะได้ประโยชน์จากการได้น้ำมาช่วยขับเครื่องอีอีซี ที่ถือเป็นเครื่องยนต์เครื่องใหม่ของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนประเด็นการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการนี้ราคาแพงถึง 10.75 บาทต่อหน่วยนั้น เป็นการบวกรวมค่าไฟฟ้าและค่าน้ำ โดยต้องสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ส่งน้ำผ่านภูเขาลงทุน 9,000-10,000 ล้านบาท และเป็นราคา maximum ซึ่งทุก ๆ 10.75 บาทต่อหน่วย นอกจากจะได้ไฟฟ้า 1 หน่วย บนพื้นฐานต้นทุนค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ไทยผลิตได้อยู่ที่ 2.60 บาทต่อหน่วย และยังได้น้ำอีก 3 ลูกบาศก์เมตร เฉลี่ยลูกบาศก์เมตรละ 2.80 บาท ได้น้ำอย่างน้อยปีละ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร มีข้อผูกผันในการส่งน้ำเป็นเวลา 50 ปี”  นายประเสริฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม