กรุงเทพฯ 6 มิ.ย.- สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำหนดรับฟังความคิดเห็นแผน “PDP 2024” และ “แผน Gas Plan 2024” 12 มิ.ย.นี้ คุมค่าไฟไม่เกิน 4 บาท/หน่วย คาดประกาศใช้ “แผนพลังงานชาติ” ภายใน ก.ย.2567
นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนพ.อยู่ระหว่างจัดทำร่างแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ฉบับใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 5 แผนสำคัญ ได้แก่ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP ปี 2567-2580) 2.แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) 3.แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) 4.แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ(Gas plan) และ 5 แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil plan) ซึ่งขณะนี้ร่างแผน PDP 2024 และร่าง Gas Plan 2024 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน
โดยแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (Power Development Plan: PDP 2024) ฉบับนี้ ให้ความสำคัญใน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1. ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ (Security) 2. ต้นทุนค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม (Economy) และ 3.ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Ecology) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ที่ สนพ. กำลังจัดทำอยู่ นอกจากนี้ในแผน PDP 2024 จะใช้เกณฑ์โอกาสเกิดไฟฟ้าดับ (LOLE) ต้องไม่เกิน 0.7 วันต่อปี หรือไม่เกิน 17 ชั่วโมง จาก 8,760 ชั่วโมง จากเดิมใช้เกณฑ์กำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) รวมทั้งยังกำหนดเป้าหมายของมาตรการเปลี่ยนแปลงพฤติกกรรมการใช้ไฟฟ้า (Demand response) 1,000 เมกะวัตต์ และมาตรการลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) รวมไปถึงจะมีโรงไฟฟ้าใหม่ และเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำมาพิจารณา ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ รับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ โซลาร์ โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์บวกด้วยระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) มีพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) เป็นทางเลือก
“ในแผน PDP 2024 ปลายแผนจะเพิ่มสัดส่วน RE 51% จากแผน PDP เดิมที่มีสัดส่วน 36% ส่วนไฮโดรเจนกำหนดไว้ที่ 5% ซึ่งจะเป็นการใช้ร่วมกับก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า และ SMR ประมาณ 600 เมกกะวัตต์ซึ่งจะอยู่ปลายแผน ทั้งนี้ก็เพื่อเป้าหมายลด Emission ในภาคการผลิตไฟฟ้าลงให้เหลือ 62 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ในปี 2580 ส่วนค่าไฟฟ้าในแผน PDP ใหม่จะพยายามคุมให้ไม่เกิน 4 บาทต่อหน่วย โดยหลังรับฟังความเห็นแล้วเสร็จทั้ง 5 แผนจะนำไปรวมกันเป็นแผนพลังงานชาติ เพื่อนำเสนอ กบง. กพช. สภาพัฒน์ฯ และเข้าครม.ต่อไป โดยคาดว่าจะประกาศใช้ภายในเดือนกันยายน 2567” นายวีรพัฒน์ กล่าว
ส่วนแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ.2567-2580 (Gas Plan2024) มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอกับความต้องการใช้ของประเทศ และบริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานก๊าชธรรมชาติให้มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพ โดย Gas Plan 2024 ได้ประมาณการความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในระยะยาวจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า ภาพรวมความต้องการใช้ก๊าชธรรมชาติ ลดลงจาก 4,859 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ในปี 2567 เป็น 4,747 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันในปี 2580 จากการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าลดลง เนื่องจากการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนและไฮโดรเจน การใช้ในโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ลดลงตามปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และการใช้ในภาคขนส่ง ตามจำนวนรถ NGV ที่มีแนวโน้มลดลง
โดยแผน “PDP 2024” และ “แผน Gas Plan 2024” จะเปิดรับฟังความเห็นวันที่ 12-13 มิถุนายน 67 ในกลุ่มภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ และจะมีการเปิดรับฟังความเห็นในรูปแบบออนไลน์ใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยวันที่ 17 มิถุนายน 67 ช่วงเช้าสำหรับประชาชนภาคกลาง ช่วงบ่ายสำหรับประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ช่วงเช้า สำหรับประชาชนภาคใต้ ช่วงบ่าย สำหรับประชาชนภาคเหนือ นอกจากนี้ สนพ. ยังเปิดรับให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้เข้ามาแสดงความเห็นผ่านช่องทาง Facebook : EPPO Thailand และเว็บไซต์ www.eppo.go.th ตั้งแต่วันที่ 19-23 มิถุนายน 2567 ซึ่งข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็น สนพ. จะนำไปประกอบการปรับปรุงทั้งสองแผนนี้ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป. -517-สำนักข่าวไทย