เปิดร่างแผน PDP 2024

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – เปิดร่างแผน PDP 2024 เน้นพลังงานหมุนเวียนเป็นหลักมีสัดส่วน 51% ขณะที่ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่ำกว่าแผนเดิมเล็กน้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 3.87 บาทต่อหน่วย ปลัดพลังงานงาน เผยเตรียมเปิดรายละเอียดโครงการนำร่อง “Direct PPA” สัปดาห์หน้า


สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จัดสัมนารับฟังความคิดเห็นร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (Power Development Plan: PDP 2024) และร่างแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2567-2580 (Gas Plan 2024) ในกลุ่มภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพ โดยมีนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงาน

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สำหรับแผน PDP 2024 มุ่งเน้น 3 เรื่องหลัก คือความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศที่ต้องเพียงพอกับการเติบโตของระบบเศรษฐกิจ ค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสมคือพยายามจะทำให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากนโยบายส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด หรือ เทคโนโลยีทางเลือก เพื่อช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงมีการนำพลังงานสะอาดเข้ามาอยู่ในแผนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องแบตเตอร์รี่ และระบบสูบกลับ รวมถึงมีเรื่องการนำก๊าซไฮโดรเจนผสมกับก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า โดยตั้งแต่ปี 2573 จะมีการผสมไฮโดรเจน ประมาณ 5% ความต้องการใช้ไฟฟ้าปลายแผนจะอยู่ที่ 56,133 เมกกะวัตต์ โดยปัจจัยเร่งมาจากการใช้รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพและปริมณฑล และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนใน 6 เมืองหลัก เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และยานยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ปริมาณสำรองไฟฟ้าจะถูกยกเลิกและแทนที่ด้วยการใช้เกณฑ์ความมั่นคง คือ ดัชนีโอกาสเกิดไฟฟ้าดับ (แอลโอแอลอี) เกณฑ์ไม่เกิน 0.7 วันต่อปี เพราะแอลโอแอลอีจะคำนึงถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นในการผลิตไฟฟ้าของแต่ละโรงไฟฟ้า ความต้องการใช้ไฟฟ้า และความมั่นคงระบบไฟฟ้าตลอดทุกช่วงเวลา ดังนั้นแอลโอแอลอีจึงเหมาะสมกว่าปริมาณสำรองไฟฟ้า โดยสัดส่วนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ประกอบด้วย พลังงานสะอาด 51% แบ่งเป็น พลังงานแสงอาทิตย์ 16% พลังงานหมุนเวียนอื่นๆ 16% พลังน้ำต่างประเทศ 15% ที่ก๊าซธรรมชาติ 41% และถ่านหินและลิกไนต์ 7% โดยสัดส่วนนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นเพราะรอให้โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ปลดระวาง ทั้งนี้ พีดีพี 2024 จะบรรจุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบโมดูลขนาดเล็ก (SMR) ช่วงปลายแผนด้วย กำลังผลิต 600 เมกกะวัตต์


ทั้งนี้ในร่างแผน PDP2024 ได้ระบุถึงกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ที่จะทยอยเข้ามาในช่วงปี 2567-2580 รวมทั้งสิ้น 60,208 เมกะวัตต์ (เป็นกำลังผลิตใหม่ที่ไม่นับรวมกำลังผลิตที่มีข้อผูกพันแล้ว) โดยแบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รวม 34,851 เมกะวัตต์ ,โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 6,300เมกะวัตต์ ,โรงไฟฟ้าพลังความร้อน หรือนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) 600 เมกะวัตต์ , การรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 3,500 เมกะวัตต์ และอื่นๆ(DR,V2G) รวม 2,000 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 12,957 เมกะวัตต์ เป็นฉโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ ระบบกักเก็บแบตเตอรี่

ส่วนค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของแผน PDP 2024 อยู่ที่ 3.8704 บาทต่อหน่วย ซึ่งราคาถูกกว่าแผน PDP 2018 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 3.9479 บาทต่อหน่วย “ร่างแผน PDP 2024 บนสมมติฐานราคาก๊าซเดียวกัน จะเห็นว่า แผน PDP2024 ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยถูกกว่า PDP 2018 และแผนนี้มีไฟฟ้าสะอาดมากกว่า จากพลังงานหมุนเวียน มีการใช้ไฮโดรเจร และในช่วงปลายแผนจะมีเทคโนโลยี SMR หรือ นิวเคลียร์เข้ามาเสริม ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อสร้างความพร้อม ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน” นายประเสริฐ กล่าวพร้อมเผย ความคืบหน้า “Direct PPA” โครงการนำร่อง การอนุญาตและส่งเสริมให้เอกชนสามารถทำสัญญาซื้อขายไฟกันโดยตรงกับผู้ผลิตพลังงานสะอาด/พลังงานทดแทน ขณะนี้อยู่ระหว่างร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำรายละเอียด โดยเบื้องต้นจะไม่ได้เป็นการระบุหรือเจาะจงพื้นที่ แต่จะขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงความต้องการของกลุ่มนักลงทุน เช่น กลุ่ม Data Center ,Teach Company ที่เรียกร้องให้ไทยมี “Direct PPA” โดยจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ซึ่งไม่ใช่ไฟฟ้าสีเขียว UGT และจะต้องมีการกำหนดอัตราซื้อขาย รวมถึงศึกษาอัตราค่าบริการสายส่งไฟฟ้า (Wheeling Charge) เพราะจะต้องใช้ระบบสายส่งของการไฟฟ้า ทั้งนี้มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้ ส่วนรายละเอียดโครงการจะมีการเปิดเผยสัปดาห์หน้า

ส่วนโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบแรกจำนวน 5,203 เมกะวัตต์ จะสามารถนำมาขายไฟฟ้าร่วมกับโครงการนำร่อง Direct PPA ได้หรือไม่นั้น ยังต้องหารือในรายละเอียด ส่วนความคืบหน้าแผนรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบสอง 3,668.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถดำเนินโครงการได้ภายในปีนี้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างแผน PDP 2024 เนื่องจากเป็นโครงการต่อเนื่องจากแผน PDP 2018 Rev.1 ทั้งนี้วันที่ 13 มิถุนายน 2567 จะเป็นการรับฟังความคิดเห็นในส่วนของกลุ่มภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันที่ 17 มิถุนายน 2567 เป็นการรับฟังความคิดเห็นทางระบบออนไลน์ ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และวันที่ 19 มิถุนายน 2567 จะเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้. -517 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย