กทม.แจงขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส

สำนักข่าวไทย 2 ก.ย.-  กทม. แจงขึ้นราคารถไฟฟ้าบีทีเอส ย้ำ ขึ้นเฉพาะเส้นทางระหว่าง สุขุมวิท สีลม ระยะ 23.5 กิโลเมตร หลังไม่ขึ้นมานาน 4ปี  เป็นไปตามสัญญาสัมปทาน ส่วนที่อัตราค่าโดยสารแพงว่าสิงคโปร์ และญี่ปุ่น เนื่องจากต้นทุนการก่อสร้างบริษัท  ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ออกเองทั้งหมด


 นายสุธน อาณากุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง  กรุงเทพมหานคร ชี้แจงประเด็นการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส  สายสุขุมวิทและสายสีลม ที่จะปรับขึ้นราคาภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้   ว่า    การขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส   เป็นการปรับ เฉพาะในส่วนของเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร ไม่รวมส่วนต่อขยายที่อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของกรุงเทพมหานคร  โดยการปรับราคาค่าโดยสารเป็นไปตามสัญญาสัมปทาน ระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซึ่งระบุว่าบริษัทฯ อาจปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บเป็นคราวๆ ไป และบริษัทสามารถปรับค่าโดยสารได้ทุก 18 เดือน แต่ต้องไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารขั้นสูงสุด (เพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดปัจจุบันอยู่ที่ 60.31 บาท)   โดยมีการปรับราคาค่าโดยสารครั้งล่าสุด  เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.56  หรือ เมื่อ 4 ปี มาแล้ว ทั้งนี้ บริษัทจะต้องแจ้งให้กรุงเทพมหานครและประชาชนทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนที่ค่าโดยสารที่เรียกเก็บใหม่นั้นจะบังคับใช้ ซึ่งบริษัทฯ ได้แจ้งมายังกรุงเทพมหานครแล้วและจะมีผลในวันที่ 1 ต.ค.60 นี้  อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อหาข้อสรุป และนำเรียนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อไป 


ส่วนของการติดตั้งเครื่องอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ขณะนี้กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ซึ่งจะติดตั้งลิฟท์สำหรับผู้พิการที่สถานีรถไฟฟ้า ครบทั้ง 23 สถานี แล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้  ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า อัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้า สูงกว่า  ประเทศอื่นหากเทียบรถไฟฟ้าใต้ดินและเอ็มอาร์ทีของประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ นั้น   เนื่องจากการดำเนินการรวมทั้งการบริหารจัดการทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การก่อสร้าง  บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด ภาครัฐจึงไม่ได้กำหนดรายละเอียดดังกล่าวในสัญญาสัมปทาน   นอกจากนี้ ยังมีข้อแตกต่างของการบริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ มีการพัฒนาเส้นทางโดยรอบของสถานีในเชิงพาณิชย์  จึงสามารถนำรายได้ดังกล่าวมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการเดินรถและบริหารงาน ต่างกับประเทศไทยที่มีรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสารและค่าโฆษณาภายในสถานีเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องนำรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสารมาเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ราคาไข่ไก่พุ่งไม่หยุด เจ้าของร้านขนมไทยโอด ต้นทุนสูง กำไรลด

พุ่งไม่หยุด! ไข่ไก่ปรับขึ้นอีก ถือเป็นการปรับราคาครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน กระทบการค้าที่ใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบ เจ้าของร้านขายขนมไทย โอดต้นทุนสูง กำไรลด กำลังซื้อหดหาย แทบอยู่ไม่ได้

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร สักการะพญาศรีสัตตนาคราช

นายกฯ สวมเสื้อศรีโคตรบูร เผยอาการป่วยดีขึ้นแล้ว ก่อนสักการะพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมจุดเรือไฟบก ผลักดันสู่ประเพณีไหลเรือไฟโลก ด้านประชาชนตะโกน ขอบคุณที่มานครพนม

ครบ 1 เดือน ตึก สตง.ถล่ม ทุกร่างต้องได้กลับบ้าน

บรรดาญาติๆ ของแรงงานอาคาร สตง.พังถล่มขณะก่อสร้าง ยังคงเฝ้ารอร่างลูกหลานกลับบ้าน แม้วันนี้คงไม่มีปาฏิหาริย์แล้ว ตลอด 30 วันที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนพยายามทุ่มเท หวังลบเลือนฝันร้ายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์

นายกฯ ไข้กลับอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว

นายกฯ ไข้กลับ มีอาการอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวทั้งวัน ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุมแก้ปัญหายาเสพติดข้ามแดน บอก ราคายาเสพติดแพงขึ้น สะท้อนผลการปราบปราม เน้นย้ำ ให้ความรู้ – โทษ แก่เด็ก และเยาวชน พร้อมให้โอกาสผู้เสพกลับคืนสังคม