กรุงเทพฯ 27 ส.ค.-นายสมชาย หาญหิรัญ
ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมแจงผู้แทนรัฐบาล อยู่ระหว่างการเจรจากับคิงส์เกต ประเทศออสเตรีเลียผู้ถือหุ้นใหญ่เหมืองทองคำ
“อัครา”ยังไม่มีข้อยุติใด ๆ กรณีผลกระทบจาก ม.44 ระงับเหมืองทองคำชั่วคราว
นายสมชาย ชี้แจงว่า การใช้ มาตรา 44 ออกคำสั่งโดยหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ที่ 72/2559 เป็นการระงับการประกอบกิจการของเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศเป็นการชั่วคราว เป็นกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยของประชาชนชาวไทยเป็นสำคัญ เนื่องจากมีการร้องเรียนและคัดค้านว่าการประกอบการเหมืองแร่ทองคำก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนจนเกิดความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่โครงการทำเหมืองแร่ทองคำหลายแห่ง
สำหรับกรณีของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ไม่ได้เป็นการยึดสิทธิ์การทำเหมืองของนักลงทุนแต่อย่างใด แต่เป็นการระงับการต่อใบอนุญาตประกอบการเพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของการทำเหมืองเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยและผลกระทบต่อประชาชนเป็นสำคัญ โดยให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
ส่วนสิทธิการเรียกร้องค่าเสียหายนั้น
เป็นสิทธิตามที่รัฐบาลไทยกับออสเตรเลียได้ตกลงกันในกรอบการค้าเสรี
ซึ่งข้อเรียกร้องจะยุติอย่างไร ยังไม่ทราบเพราะอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ ทีมเจรจาของประเทศไทยได้ดำเนินการพิจารณากำหนดท่าทีโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ
ผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
และความตกลงระหว่างประเทศที่ไทยมีข้อผูกพันอยู่ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อยุติใด
ๆ ทั้งสิ้นจากการเจรจาตามที่เป็นข่าวในสื่อบางแห่งในขณะนี้
ทั้งนี้ หากในอนาคต แม้ว่าบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด
ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท อัคราฯ
จะยื่นฟ้องอนุญาโตตุลาการ การดำเนินการต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน
ไม่สามารถยุติได้ง่าย ๆ และแม้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย จะมีผลเหนือกฎหมายภายในประเทศของทั้งสองฝ่าย แต่การพิจารณาจะใช้ระบบอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
จะพิจารณาเหตุผลความจำเป็นในการดำเนินการของคู่ภาคีเป็นสำคัญ ซึ่งระหว่างนี้ทีมเจรจาของประเทศไทน
ก็ยังดำเนินการเจรจาต่อไป เพื่อหาข้อยุติที่เหมาะสมทั้งสองฝ่าย
และเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างถึงที่สุด–สำนักข่าวไทย