กระบี่ 23 ส.ค. – คดีคนร้ายสังหารนายวรยุทธสังหลัง ผู้ใหญ่บ้านกลาง จ.กระบี่ และสมาชิกในครอบครัวรวม 8 ศพ วันนี้ตำรวจส่งมอบสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ
จากวันที่ตำรวจเข้าจับกุมบังฟัต พร้อมกับพวกได้รวม 8 คน กระทั่งถึงวันนี้ รวมเวลา 36 วัน ที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ทั้งหมด พร้อมส่งมอบสำนวนการสอบสวน 114 รายการ ความยาวกว่า 2,000 หน้า ให้กับพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ โดยในสำนวนการสอบสวนยังคงยึดประเด็นปมสังหาร เรื่องความขัดแย้งการขายฝากโฉนดที่ดินระหว่างบังฟัตกับผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ
สำนวนการสอบสวนจำนวน 5 แฟ้ม ประกอบด้วยเอกสาร 114 รายการ รวม 2382 แผ่น แผ่นซีดีคำให้การพยานเด็กจำนวน 2 แผ่น รวมถึงพยานวัตถุอีก 116 รายการ คือ พยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมได้ในคดีสังหารนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และสมาชิกในครอบครัวรวม 8 ศพ เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 14/3 บ้านของผู้ใหญ่วรยุทธ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.สุเทพเดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำสำนวนทั้งหมดมามอบให้กับพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ โดยมีเรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับมอบเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดระบุว่า จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานชุดพิเศษจำนวน 4 คน เพื่อดูแลคดีนี้โดยเฉพาะ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะเพื่อตรวจสอบสอบสำนวน ก่อนจะพิจารณาสั่งฟ้อง โดยยังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้ และยังตอบไม่ได้ว่าทางพนักงานอัยการจะตีกลับสำนวนการสอบสวนให้กับทางตำรวจเพื่อสอบเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า พนักงานอัยการจะตรวจสอบคดีนี้อย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด
ด้าน พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า พยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมได้มีมากพอที่จะเอาผิดผู่ต้องหาทั้ง 8 ราย คือ นาย ซูรีฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต ตัวการสำคัญในคดี นายอับดุลเลาะห์ ดอเลาะ นายประจักษ์ บุญทอย นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายธวัชชัย บุญคง นายอรุณ ทองคำ นายธนชัย จำนอง และนางชลิดา สังขโชติ โดยมีการสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 69 ปาก แยกเป็นผู้กล่าวหา 2 ปาก และพยาน 67 ปาก ไม่วิตกกังวลว่าผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จะกลับคำให้การในชั้นศาล เพราะพยานหลักฐานที่มีแน่นหนาและรัดกุม โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด และลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุที่มีการยืนยันผลดีเอ็นเอตรงกับผู้ต้องหา ยืนยันว่าชนวนสังหารหมู่ครั้งนี้ยังคงเป็นเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับโฉนดที่ดินที่ผู้ใหญ่วรยุทธนำไปขายให้กับบังฟัต ก่อนที่บังฟัตจะนำไปจำนองต่อกับธนาคาร ยืนยันว่าตำรวจยังไม่พบประเด็นหรือบุคคลอื่นเกี่ยวข้องกับการสังหารผู้ใหญ่วรยุทธเพิ่มเติม
สำหรับข้อหาที่ทางตำรวจแจ้งต่อบังฟัตและพวกรวม 8 คน ในสำนวนการสอบสวนมีทั้งสิ้น 8 ข้อหาด้วยกัน อาทิ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อหาแต่งกายโดยใช้เครื่องแบบแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหาร ข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและกระทำการใดๆ ให้ผู้อื่นหมดอิสรภาพ ข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย ข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญ ซึ่งบังฟัตเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และนายคมสันเวียงนนท์ผู้ต้องหาที่ 2 สองคนนี้ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
นับจากวันนี้ไปจึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า พนักงานอัยการจะใช้เวลาในการพิจารณาสำนวนให้เสร็จสิ้นทันส่งฟ้องศาลได้ทันภายในเดือนนี้ หรือตีกลับสำนวนการสอบสวนให้กับตำรวจเพื่อขยายผลเพิ่มเติมอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย