กระบี่ 4 มิ.ย.-ศาลอุทธรณ์ภาค 8 นัดอ่านคำพิพากษาคดีฆ่ายกครัว 8 ศพอดีตผู้ใหญ่บ้าน จ.กระบี่ ชี้ชะตา “บังฟัต” และพวก หลังศาลชั้นต้นสั่งประหารชีวิตเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา
ขณะนี้เวลาล่วงเลยมาร่วม 1 ชั่วโมงแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ยังไม่สามารถอ่านคำพิพากษาได้ เนื่องจากว่ายังคงรอจำเลยที่ 7 ซึ่งได้พ้นโทษไปแล้ว และตามกำหนดการนั้นจำเลยที่ 7 จะต้องเดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาด้วย แต่จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แวว ส่วน “บังฟัต” หรือนายซูรีฟัต บ้านนบวงศ์สกุล จำเลยที่ 1 กับพวกถึงจำเลยที่ 6 วันนี้ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยมีรายงานว่าทั้งหมดนั้นรอฟังคำพิพากษาอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
นายจรีย์ บุตรเติบ มีศักดิ์เป็นพ่อตาของนายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ อดีตผู้ใหญ่บ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เดินทางมายังศาลจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยครอบครัว 5 คน โดยมีพยานปากสำคัญในคดีนี้คือ นางอัญชลี บุตรเติบ บุตรสาวซึ่งรอดชีวิตจากการถูก “บังฟัต” ลั่นไกสังหารพร้อมกับผู้ใหญ่บัติและสมาชิกในครอบครัว แต่รอดชีวิตมาได้ ร่วมเดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ด้วย ทั้งหมดเปิดเผยก่อนเข้าฟังคำตัดสินในห้องพิจารณาคดีหมายเลข 3 ว่ายังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าศาลอุทธรณ์ภาค 8 จะยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้น ลงโทษให้ “บังฟัต” พร้อมพวก ถูกประหารชีวิตและเพิ่มโทษจำเลยที่ 7-8 ที่ถูกตัดสินให้จำคุก 1 ปี 9 เดือน และ12 เดือน ซึ่งปัจจุบันทั้งคู่พ้นโทษไปแล้ว โดยในวันนี้นางชลิดา สังข์โชติ จำเลยที่ 8 ซึ่งถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกและพ้นโทษไปแล้ว ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์พร้อมกับทนายความด้วย ส่วนจำเลยที่ 7 ยังไม่ปรากฏตัวที่ศาลแต่อย่างใด โดยทนายความฝั่ง “บังฟัต” เปิดเผยว่าหากผลคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น จะต้องมีการพูดคุยกับ “บังฟัต” และจำเลยอีก 6 คนก่อนว่าจะยื่นฎีกาต่อไปหรือไม่
ขณะที่ครอบครัวผู้ใหญ่บัติ เปิดเผยด้วยว่าหลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 ให้ “บังฟัต” พร้อมกับพวกรวม 8 คน ชดเชยและเยียวยาความเสียหายให้กับครอบครัว จนถึงขณะนี้ทางครอบครัวไม่เคยได้รับการเยียวยาใดๆ เลย โดยปัจจุบันครอบครัวได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่ “บังฟัต” นำบ้านไปจำนองต่อจน ถูกธนาคารยึดและอยู่ระหว่างการบังคับคดีให้ออกจากที่อยู่อาศัย
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 เป็นคดีสะเทือนขวัญต่อสังคมเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลา 5 วัน ควบคุมตัวผู้ลงมือก่อเหตุทั้งหมด “บังฟัต” และพวก รวม 8 คน ให้การรับสารภาพลงมือก่อเหตุเพราะความขัดแย้งจากกาที่ผู้ใหญ่บัตินำที่ดินไปขายฝากให้กับ “บังฟัต” แต่ “บังฟัต” นำที่ดินไปจำนองต่อ หลังจากนั้นศาลชั้นต้นใช้เวลาราว 1 ปีอ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 โดยให้ “บังฟัต” และพวก 6 คน โทษประหารชีวิต.-สำนักข่าวไทย