กรธ. สนช.เมินกกต.สาธิตลงคะแนนแยกเบอร์รายเขต

สำนักงาน กกต. 23 ส.ค.-กกต.สาธิตลงคะแนนแยกเบอร์ รายเขต โชว์บัตรเลือกตั้ง 350 แบบ สะท้อนความยุ่งยากจากร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.ไม่พบผู้สังเกตการณ์ 3 ฝ่ายที่ส่งบัตรเชิญไปก่อนหน้านี้  พรรคเล็ก-องค์กรกลาง เสนอ กรธ.ทบทวนใหม่     


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดสาธิต การลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. รูปแบบแยกเบอร์รายเขต ตามแนวคิดของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)  โดยจำลองหน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง  และบัตรเลือกตั้ง 350 แบบ  ซึ่งจะพิมพ์ทั้งชื่อ นามสกุลผู้สมัครรับเลือกตั้ง  หมายเลขผู้สมัคร ชื่อพรรคและโลโก้พรรค  พร้อมสาธิตขั้นตอนการลงคะแนนตั้งแต่การลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์โดยใช้คิวอาร์โค้ด  การใช้สมาร์ทการ์ด  การพิมพ์ซองใส่บัตรเลือกตั้ง  ที่ผู้ใช้สิทธิจะต้องนำบัตรลงคะแนนใส่ลงไปในซองก่อนหย่อนในหีบเลือกตั้ง  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง   รวมทั้งการจ่ายบัตรเลือกตั้ง 350 แบบ  

ในการสาธิตครั้งนี้ไม่ปรากฏว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองของรัฐบาล  เข้าร่วมสังเกตการณ์ตามคำเชิญของนายสมชัยแต่อย่างใด  มีเพียงนายพงศ์กิตติ อรุณภักดีสกุล  รองเลขาธิการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตัวแทนพรรคการเมืองขนาดเล็ก  ตัวแทนมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมสังเกตการณ์  สะท้อนว่าระบบใหม่ที่ กรธ.กำหนด จะสร้างความยุ่งยากให้ประชาชน  และอาจเกิดปัญหาในเรื่องการรวมคะแนน  เพราะเป็นระบบแยกเบอร์รายเขต  ไม่ใช่ระบบพรรคเดียวเบอร์เดียวเหมือนที่เคยปฏิบัติ และอยากให้ กรธ.ทบทวนแนวคิดนี้


หลังการสาธิต นายสมชัย ได้นำบัตรเลือกตั้งทั้ง 350 แบบ  มาวางประกอบการแถลงข่าว ว่า การสาธิตดังกล่าวเพื่อสะท้อนให้เห็นว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเลือกตั้งมาเป็นแยกเบอร์รายเขตจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร  บัตรเลือกตั้งที่ใช้แต่ละเขตจะมีความแตกต่างกัน   อาจต้องแยกพิมพ์ในโรงพิมพ์ต่างจังหวัดแทนโรงพิมพ์ส่วนกลางที่เดียว  เกิดผลเสียเรื่องมาตรฐานของบัตร   ระดับการรักษาความปลอดภัยของบัตรเพื่อป้องกันบัตรปลอมอาจทำไม่ได้  ส่งผลให้อาจเกิดปัญหาบัตรปลอมในวันเลือกตั้งจริงได้ 

“กกต.เกรงปัญหาบัตรปลอมมากที่สุด  การโกงเลือกตั้งจากบัตรปลอมเพียงใบเดียวทำได้ง่ายมาก  การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งจะเกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้งจริง 7 วัน  หากผู้ที่มาใช้สิทธิไม่นำบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของตนใส่ซองไปหย่อนในหีบบัตร  แต่เอาบัตรออกมาจากหน่วย แล้วมาทำปลอม  บัตรคุณภาพต่ำ 7 วันสามารถทำได้สบายมาก  พอถึงวันเลือกตั้งจริงหลังเปิดการลงคะแนน  ก็เอาบัตรปลอมใบหนึ่งให้ผู้ที่เข้าไปขอใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งนำไปใส่หีบบัตรเลือกตั้ง  แล้วนำบัตรจริงที่ได้รับกลับออกมานอกหน่วย   ให้หัวคะแนนกากบาทบัตรจริง  จากนั้นก็ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีกคนนำกลับเข้าไปลงคะแนนแล้วเวียนเอาบัตรจริงออกมาอีก ก็จะทำให้เกิดการเวียนลงคะแนนได้ตลอดการเลือกตั้ง ในขณะที่จะปรากฏบัตรปลอมเพียงแค่ใบเดียวต่อหน่วยเลือกตั้งเท่านั้นแต่สามารถเปลี่ยนผลคะแนนเลือกตั้งได้” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า การที่กฎหมายออกแบบให้ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว  แต่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องเลือกทั้งผู้สมัคร และพรรค  ดังนั้นลักษณะภายในบัตรจะต้องเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งของผู้มีสิทธิจึงต้องมีอย่างน้อยหมายเลขผู้สมัคร และชื่อพรรค ส่วนโลโก้จะมีหรือไม่ก็ได้ แต่จะมีเพียงหมายเลขผู้สมัครเพียงอย่างเดียวไม่ได้   ซึ่งกกต.ชุดใหม่ก็ต้องระวัง หรือถ้าวันหนึ่งใครอาจหาญพิมพ์แค่เบอร์ผู้สมัครเพียงอย่างเดียว ก็เตรียมถูกฟ้องแพ่งให้รับผิดชอบต่อค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้ง  ที่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าเป็นโมฆะ 


“ถ้า กรธ.ยืนยันที่จะใช้รูปแบบดังกล่าวในการเลือกตั้ง   ทาง กกต.ก็พร้อมที่จะหาวิธีการเพื่อที่ทำให้จัดการเลือกตั้งได้   แม้จะมีความยุ่งยากในส่วนอื่น  เช่น  การจัดจุดเปิดรับสมัคร 350 จุด  การนับคะแนนรวมในระดับจังหวัด   ซึ่งก็ยังถือว่าเดือดร้อนน้อยกว่า  ประชาชนที่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะรู้สึกสับสน  หรือพรรคการเมืองที่เดือดร้อนมากที่สุด  เพราะไม่รู้จะหาเสียงอย่างไร  เนื่องจากไม่สามารถบอกได้เลยว่าพรรคของตนหมายเลขอะไร   ขณะที่กกต.ชุดใหม่มีคุณสมบัติขั้นเทพ เชื่อว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ “นายสมชัยกล่าวและ ว่า กกต.ชุดปัจจุบันก็จะได้นำผลสรุปและปัญหาต่างๆ ส่งมอบให้กับกกต.ชุดใหม่ได้พิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป 

ต่อข้อถามว่าเมื่อ กกต.สะท้อนปัญหาแล้ว กรธ.จะปรับปรุงหรือไม่  นายสมชัย กล่าวว่า  ไม่อาจคาดการณ์ได้ เพราะถ้าทำสาธิต  รู้ปัญหาขนาดนี้หูหนวก ตาบอด ไม่รับฟังก็เท่ากับเป็นการสะท้อนความพิการในการรับรู้ของท่านเอง

“การสาธิตในช่วงที่กฎหมายยังไม่ออกเป็นเรื่อง จำเป็น เพราะต้องการให้สร้างเครื่องบินเสร็จแล้วบินได้  ไม่ใช่บินแล้วพาคนไปตาย   แต่ต้องการให้มีการตรวจสอบว่าเครื่องบินขนคนไปถึงที่หมายได้จริง แม้ว่าคนออกแบบเครื่องบินไม่มาในวันนี้  อาจเป็นเพราะยังติดภารกิจในการออกแบบจรวดนำวิถี  หรือขีปนาวุธที่สำคัญกว่า แต่อยากให้มีการไตร่ตรองจากปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไข  เพราะแนวคิดนี้มีปัญหาในหลายจุด  และสร้างภาระให้กับทั้งประชาชน  รวมทั้งไม่มีใครรับประกันได้ว่าการทำระบบนี้จะป้องกันการซื้อเสียงได้ ” นายสมชัย กล่าวว่า .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง