ขยายสอบปมลวนลามสาวสาธารณสุข

นนทบุรี 22 ส.ค.-ความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีข้าราชการลวนลามลูกจ้างสาวสาธารณสุข ชุดสอบสวนข้อเท็จจริงขอขยายสอบเพิ่ม กรณีล็อบบี้เอื้อประโยชน์และช่วยเหลือล้มคดี โดยจะสรุปผลศุกร์นี้ ขณะที่องค์กรสตรีแสดงความเป็นห่วง และอยากให้เร่งสรุปผลภายใน 2-3 วัน


ยืดเยื้อมานานกว่าสัปดาห์ กรณีการล่วงละเมิด คุกคามทางเพศ ภายในกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่มีบทสรุป วันนี้หัวหน้ากลุ่มภารกิจงานอำนวยการย่องเงียบ ให้ถ้อยคำแก้ต่างกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กระบวนการจากนี้จะสรุปผลในวันที่ 21 สิงหาคม ส่วนจะสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อหรือไม่ ต้องรอผลจากกรรมการฯ และระหว่างนี้วอนสื่อมวลชน งดเผยแพร่ภาพ ชื่อ ผู้เสียหาย และผู้กระทำ เพราะท้ายที่สุด ทั้ง 2 ฝ่าย ชีวิตต้องดำเนินต่อ ทั้งเริ่มต้นใหม่ หรืออยู่ในสังคมเดิม

เหตุล่วงละเมิดพนักงานอัตราจ้างของกระทรวงสาธารณสุข เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 ในอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เหยื่อระบุเริ่มจากละเมิดเล็กน้อย และเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลัง แต่จำทนเพราะถูกขู่เรื่องการต่อสัญญาจ้าง ที่สุดทนไม่ได้ จึงเข้าร้องทุกข์ต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทีมข่าวลงพื้นที่เพื่อสอบถามเพื่อนร่วมงาน คนใกล้ชิด แต่ถูกปฏิเสธโดยไม่ให้เหตุผล อ้างเพียงไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น


มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลยื่นหนังสือเร่งสอบสวนเร่งด่วน ระบุการล่วงละเมิด หรือคุกคามทางเพศ  พบไม่บ่อยในหน่วยงานราชการ แต่ผู้ถูกกระทำต้องอาศัยความใจกล้าร้องเรียน เรื่องจึงจะปรากฏ และตราบใดความคิดผู้ชายเป็นใหญ่ หรือหญิงเป็นรอง อยู่คู่สังคม กรณีเช่นนี้ยังจะมีเกิดขึ้นเสมอ

ระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยการกระทำการอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ พ.ศ.2553 กำหนดชัดถึงการกระทำที่เป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ ครอบคลุมถึงการสัมผัสทางกาย เช่น โอบกอด จับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง ใช้วาจาที่ส่อทางเพศ ไม่ว่าจะหยอกล้อ พูดจาหยาบคาย รวมทั้งการใช้สายตาลวนลาม แสดงรูปลามกอนาจาร หรือพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์  ซึ่งระเบียบดูจะทันยุค ทันสมัย แต่บทบาทลงโทษอ่อนแค่ตักเตือน จึงต้องอาศัยวัฒนธรรมองค์กรของข้าราชการเข้าแก้

ไม่ว่าพฤติกรรมลวนลามจะเกิดขึ้นในรูปแบบใด ระยะเวลายาวนานแค่ไหน ก็ไม่ควรเกิดขึ้น การส่งต่อข้อมูลแพร่กระจายจะสร้างความบอบช้ำให้ผู้ถูกกระทำ เหมือนเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย