นครราชสีมา 20 ส.ค.-กระทรวงพาณิชย์ผลักดัน “เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน”ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย
(GI)เน้นส่งเสริมการตลาดและการท่องเที่ยวชุมชน
หวังเพิ่มรายได้แก่ท้องถิ่น
วันนี้ ( 20 ส.ค.) นางอภิรดี ตันตราภรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่แหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน
ณ ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อประชุมร่วมกับผู้ผลิต
ผู้ประกอบการเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน
และหน่วยราชการในพื้นที่เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการ
และประโยชน์ในการขึ้นทะเบียน GI
นางอภิรดี กล่าวว่าเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนนั้นมีความโดดเด่น
ทั้งตัวสินค้าที่มีความแข็งแกร่ง และมีความสวยงามแบบมีเอกลักษณ์
รูปแบบงานปั้นที่มีความหลากหลาย สามารถสร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ปีละหลายร้อยล้านบาท โดยร้อยละ 80 ของประชากรในตำบลด่านเกวียน
ยึดอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนขายมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ปั้นจากดินด่านเกวียนเป็นดินเหนียวเนื้อละเอียดที่ขุดขึ้นมาจากริมฝั่งแม่น้ำมูล
ที่สำคัญจะมีแร่เหล็กและแร่อื่นๆ เจือปนอยู่ด้วย
จนทำให้เวลาเผาแล้วจะมีความแข็งแกร่งคล้ายเหล็กและมีสีสันสวยแปลกตาไม่เหมือนดินที่อื่น
ที่เรียกกันว่า Stone Ware คุณสมบัติมีความเหนียวสูงมาก
ซึ่งแตกต่างจากเครื่องปั้นดินเผาจากพื้นที่อื่น
ปัจจุบัน
กรมทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ระหว่างสนับสนุนการจัดทำคำขอGI และระบบควบคุมตรวจสอบคุณภาพให้แก่เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน
เพื่อให้สามารถขึ้นทะเบียนได้ภายในปี 2561 ซึ่งหากจดทะเบียนแล้ว จะเป็นสินค้าอันดับที่ 3
ของ จังหวัดนครราชสีมาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI จากที่ลงทะเบียนแล้ว
2 สินค้า ได้แก่ เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน และกาแฟดงมะไฟ นอกจากนี้ยังมีคำขอที่ยื่นเข้ามาและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 3 สินค้า ได้แก่ ไวน์เขาใหญ่ กาแฟวังน้ำเขียว
และข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์
“การลงพื้นที่ ได้สั่งการทุกหน่วยงานงานเร่งรัดการขึ้นทะเบียน
GI ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
เพื่อร่วมกันหาทางสร้างการเพิ่มมูลค่าของสินค้า ส่งเสริมพัฒนา และฝึกอบรม
ให้ความรู้ ในด้านการบริหารจัดการธุรกิจที่ดี เพื่อให้ทราบต้นทุน ลดความสูญเสีย
เพิ่มช่องทางการค้าทั้งช่องทางทั่วไปและออนไลน์ มองถึงถึงตลาดในและต่างประเทศด้วย
ซึ่งปผนบูรณาการช่วยชุมชนบ้านด่านเกวียน จะช่วยสร้างอัตลักษณ์ให้แก่สินค้า
และนำเสนอวิถีชีวิตชุมชน อันจะนำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์
และภาคบริการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย”นางอภิรดี กล่าว-สำนักข่าวไทย