13 ส.ค. – ระดับน้ำเขื่อนลำปาวลดลง หลังฝนเริ่มมีแนวโน้มลดลง แต่ยังต้องระบายน้ำต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรองรับน้ำฝนที่จะตกลงในเดือนสิงหาคมและกันยายน
นายปรีชา จานทอง ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ช่วง 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบว่าปริมาณน้ำไหลเข้า 7.87 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวานประมาณ 4 เซนติเมตร ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำคิดเป็นร้อยละ 85 ของความจุ แต่กรมชลประทาน ยังจำเป็นต้องระบายน้ำที่วันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้พื้นที่ว่างในอ่างสำหรับรองรับน้ำฝนที่จะตกลงมาในเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้ ขณะที่เมื่อวานนี้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ได้เสริมความมั่นคงให้พนังกั้นน้ำในจุดเสี่ยงเขตจังหวัดกาฬสินธุ์หลายจุด อย่างไรก็ตาม ชลประทานยังคงติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง และประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
ด้านจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ว่าราชการจังหวัดเผย มีการปรับแผนด่วนรับมือน้ำท่วม ซึ่งตลอดแนว 8 อำเภอลุ่มน้ำชียังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แม้จะใช้เครื่องผลักดันน้ำ 12 เครื่องดันน้ำออกได้วันละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ยังน้อยกว่าระดับน้ำที่ระบายมาจากเขื่อนลำปาวและเขื่อนน้ำพองทำให้ส่งผลกระทบมากขึ้น เนื่องจากน้ำในพื้นที่ยังทรงตัว ซึ่งจากการบินสำรวจทางอากาศ พบว่าร้อยเอ็ดยังมีพื้นที่แก้มลิงและอ่างเก็บน้ำที่ขุดใหม่อีก 7 แห่ง หลายแห่งมีน้ำไม่ถึงร้อยละ 10 ของพื้นที่ ดังนั้นจึงจะหาทางผันน้ำที่ท่วมขังออกไปเก็บในอ่างใกล้เคียง และแก้มลิงที่ยังรับน้ำได้ ซึ่งแผนนี้จะแก้ปัญหาได้ทั้งน้ำท่วม และมีน้ำใช้ในช่วงหน้าแล้ง. -สำนักข่าวไทย