กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – ผลหารือการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน ได้ข้อสรุปเชื่อมต่อการเดินรถกับส่วนต่อขยายโดยไม่ต้องรอสับหลีก และไม่ส่งผลกระทบกับการจราจร
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการเดินรถไฟฟ้าที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน ประสบปัญหาต้องรอสับหลีก เพื่อให้เชื่อมต่อการเดินทางกับส่วนต่อขยาย ส่งผลให้ความถี่ในการเดินรถไฟฟ้าไม่เพียงพอ ทำให้มีความจำเป็นต้องขยายช่องทางเดินรถบนสถานีตากสิน จากทางวิ่งเดียวให้เป็นทางวิ่งคู่เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า กทม.และ กรมทางหลวงชนบท จะร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยปรับเปลี่ยนทางเดินรถจากช่องทางเดี่ยวบนสะพานเป็นช่องทางคู่ และเพิ่มชานชาลาให้สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องเจาะช่องผิวจราจรบนสะพานด้านในกว้าง 1.80 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร จำนวน 6 ช่อง และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้รถบนสะพาน จึงจำเป็นสร้างพื้นสะพานทดแทนกว้าง 1.80 เมตร ยาว 230 เมตร เพื่อให้เพียงพอต่อระยะเบี่ยงแนวทางวิ่งของรถยนต์บนสะพาน โดยได้ตกลงกับ กทม. ดำเนินการก่อสร้างพื้นสะพานทดแทนด้านปีกนอกของสะพานทั้งสองฝั่งให้เสร็จก่อน จึงจะดำเนินการขยายช่องทางวิ่งรถไฟฟ้าเป็นทางวิ่งคู่พร้อมชานชาลาของรถไฟฟ้า เมื่อก่อสร้างเสร็จจะช่วยเพิ่มการให้บริการรถไฟฟ้า ผู้โดยสารไม่ต้องรอรถไฟนาน และไม่มีผลกระทบต่อการจราจรบนสะพาน
ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 27 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. นี้ และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ธ.ค.62 โดยใช้เวลาในการศึกษาออกแบบประมาณ 5 เดือน ในวงเงินก่อสร้างประมาณ 1,000 ล้านบาท เป็นงบสร้างสะพาน 300 ล้านบาท และขยายสถานีรถไฟฟ้า 700 ล้านบาท โดยมีคณะกรรมการร่วมประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงชนบท กทม. บีทีเอส และ บชน. ร่วมวางแผนดำเนินการ ไม่ให้กระทบต่อการเดินทางของประชาชน โดยยืนยันว่าในระหว่างการก่อสร้างประชาชนสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้า และรถยนต์ได้ตามปกติ
ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กรมเจ้าท่า ทำการออกแบบท่าเรือตากสิน ให้เป็นสถานีเรือ เชื่อมต่อการเดินทางทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ และ เรือ ให้สมบูรณ์แบบ รวมถึงให้ดำเนินการออกแบบสร้างทางเดินเชื่อมต่อเข้าสู่โรงแรมต่าง ๆ ในย่านนั้น และให้กรมทางหลวงชนบท ทำการเปิดพื้นที่เชิงพาณิชย์ด้านข้างสถานีรถไฟฟ้าบริเวณสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นที่ดินของกรมทางหลวงชนบทอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของประชาชน – สำนักข่าวไทย
