กรุงเทพฯ 10 ส.ค.- “สมชัย ศรีสุทธิยากร” กกต.ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 5 ประเด็น ต่างเขตต่างเบอร์ไม่แก้ซื้อเสียง ประชาชนสับสน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย การเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ตนเห็นต่างจากกรรมการการเลือกตั้ง (กรธ.) ที่เปลี่ยนวิธีการเลือกตั้ง ส.ส. 5 ประเด็นคือ 1.การใช้หมายเลขผู้สมัครพรรคแตกต่างกันไปในแต่ละเขตซึ่งนายสมชัย เห็นว่า ประชาชนจะสับสน พรรคการเมืองหาเสียงลำบาก กกต.มีความยุ่งยากในการจับสลากรายเขต การจัดพิมพ์บัตรรายเขต การรวมคะแนนและรายงานผล และไม่สามารถแก้ปัญหาการซื้อเสียงได้
2.การเพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนจาก 800 คน เป็น 1,000 คน ต่อหน่วยเลือกตั้ง แม้จำนวนหน่วยจะลดลง แต่ประชาชนจะไม่ได้รับความสะดวก ต้องเดินทางไปยังหน่วยใหม่ที่ไกลจากบ้านมากขึ้น จำนวนคนที่ใช้สิทธิมากอาจทำให้เกิดการแออัดในการใช้สิทธิ
3.ส่วนการกำหนดว่า ไม่ควรใช้เขตหมู่บ้านเป็นข้อจำกัดต่อการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากอาจจะมีการแบ่งครึ่งหมู่บ้าน เพื่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบของผู้สมัคร จะเป็นการยิ่งสร้างความสับสนแก่ประชาชนในหมู่บ้านว่า ตนอยู่ในเขตเลือกตั้งใด
4.การเปิดโอกาสให้มีการใช้เครื่องลงคะแนนอีเล็คทรอนิกส์ได้ โดยมีเงื่อนไขว่า ค่าใช้จ่ายจะต้องถูกกว่าการเลือกตั้งแบบเดิม เป็นไปไม่ได้ที่การใช้เครื่องจะถูกกว่าการใช้บัตรในการเลือกตั้งคราวเดียว จะต้องพิจารณาถึงการเปรียบเทียบในระยะยาว และพิจารณาถึงประโยชน์ในเรื่องอื่น เช่น ความรวดเร็ว ความถูกต้อง จำนวนบัตรเสียเป็นศูนย์ ไม่ใช่มองในเรื่องต้นทุนอย่างเดียว
และ 5. การปิดประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน้าหน่วย โดยไม่ให้ใส่หมายเลขประจำตัว 13 หลัก เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากจะเป็นการเปิดช่องทางให้ทุจริตการเลือกตั้ง โดยสร้างบ้านเลขที่ปลอมและใส่ชื่อผู้มีสิทธิปลอมโดยไม่ต้องระบุหมายเลขประจำตัวประชาชน ดังนั้น จึงควรมีการใส่หมายเลขประจำตัวแต่อาจปิดบางหลัก โดยใช้สัญญลักษณ์ xxxx เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ แต่อย่างไรก็ยังสามารถตรวจสอบในภายหลังได้.-สำนักข่าวไทย