ยธ. 4 ส.ค.-เจ้าของรถหรู ร้องกระทรวงยุติธรรม ถูกดีเอสไออายัดทรัพย์สิน กระทบสิทธิครอบครองและซื้อขาย ขอให้ผ่อนผันการอายัดและให้เร่งสรุปคดีโดยเร็ว เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับผู้ซื้อรถ
ตัวแทนกลุ่มเจ้าของรถยนต์หรูที่ถูกดีเอสไออายัด กว่า 80คันยื่นหนังสือต่อนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมและความคุ้มครองในฐานะผู้บริโภค
ตัวแทนของ กลุ่มเจ้าของรถที่โดนอายัดกล่าวว่า หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำการอายัดรถหรูซุปเปอร์คาร์ เช่น ลัมโบกินี Ferrari รวมถึงรถยนต์หรูยี่ห้ออื่น ๆ จากบริษัทนิชคาร์ กรุ๊ป เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยได้ทำการอายัดรถยนต์ในโชว์รูมทั้งหมดกว่า 80 คัน ทั้งนี้รถในโชว์รูมที่ถูกอายัดดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นของผู้ซื้อรถที่ได้ทำการซื้อขาดจากบริษัทนิชคาร์กรุ๊ปไปแล้ว ซึ่งอยู่ในฐานะผู้บริโภคที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการนำเข้ารถโดย มิชอบของบริษัท แต่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกจำกัดสิทธิ์ในอำนาจต่อสิ่งที่ถือว่าเป็นทรัพย์สินของตนเอง เช่น สิทธิในการซื้อขายรถ ทำให้ผู้ครอบครองรถได้รับความเดือดร้อน และส่วนหนึ่งมีความจำเป็นต้องขายรถเพื่อนำเงินมาผ่อนชำระค่างวด แต่ไม่สามารถทำได้ รวมถึงบางคนไม่สามารถไปขอต่อทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้ด้วยเช่นกัน
โดยการยื่นหนังสือในครั้งนี้เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและขอให้ดีเอสไอผ่อนผันการอายัดให้เจ้าของรถสามารถใช้รถได้ตามสิทธิ โดยยืนยันว่าได้ซื้อรถด้วยความบริสุทธิ์ใจ ในราคา ที่กรมศุลกากรกำหนด และซื้อจากบริษัทที่เป็นตัวแทนนำเข้าเปิดเผย ที่ผ่านมาได้ติดต่อกับบริษัท แต่ยังไม่ได้รับการชี้แจงบอกเพียงแค่ว่ากำลังพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาอยู่
นายโอภาส เฉิดพันธุ์ เจ้าของรถหรูมูลค่ากว่า 40ล้านบาท กล่าวว่า รถของตนกำลังจะถูกดีเอสไออายัดในรอบใหม่ ในกลุ่ม 91 คัน โดยรถคันนี้ซื้อมาจากศูนย์จำหน่ายที่ถูกต้อง และชำระภาษีตาม ที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อรถถูกอายัด ก็ต้องเดือดร้อนแน่เพราะรถหรูเป็นทรัพย์สินที่ครอบครองในลักษณะการซื้อมาขายไป จึงขอให้ดีเอสไอรีบหาข้อสรุปในเรื่องนี้โดยเร็ว
ด้านรองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าว่า ได้รับเรื่องนี้และจะรีบหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทันที เบื้องต้นเห็นว่าผู้ร้องเรียนเป็น ผู้บริสุทธิ์และซื้อรถมาโดยไม่รู้ว่ารถนำเข้าถูกกฎหมายหรือไม่ แต่การร้องขอให้ปลดอายัดนั้นจะทำได้หรือไม่ต้องดูข้อกฎหมาย เพราะรถเป็นวัตถุพยานในคดีต้องพิจารณาให้รอบคอบและหารือผู้เกี่ยวข้องโดยเร็ว เท่าที่ทราบขณะนี้ดีเอสไดและทุกฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการในคดีเกี่ยวกับรถหรูซึ่งมีมากกว่า 30 คดีและภายในเดือนสิงหาคมนี้น่าจะแจ้งข้อกล่าวหาได้.-สำนักข่าวไทย