นนทบุรี 2 ส.ค.-นางสาวสุภา วสันต์นนท์ ญาติผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา นายรัศมีบอกว่าเจอคางคกที่เข้าใจว่าเป็นกบ และนำมาผัดเผ็ด ทั้งเรียกให้ญาติๆ ทาน แต่ไม่มีใครทาน หลังจากนั้นได้บ่นว่าปวดหัว ทั้งอาเจียนและขับถ่ายรุนแรงทั้งวัน แม้จะบอกให้ไปหาหมอ แต่นายรัศมีไม่ยอมไป บอกว่านอนพักคงหาย กระทั่งวันนี้อาการยังไม่ดีขึ้น และหมดสติ จึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ แต่พบว่าหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว
จากการชันสูตรเบื้องต้นแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน สำหรับคางคกเป็นสัตว์มีพิษ โดยมีต่อมพิษอยู่ที่เหนือตา เป็นที่เก็บและขับพิษออกมาผ่านทางผิวหนัง เรียกว่ายางคางคก ลักษณะเป็นเมือกสีขาวคล้ายน้ำนม เมื่อได้รับพิษมันจะซึมผ่านเร็วมาก ไม่สามารถทำลายด้วยความร้อนได้ แม้จะนำมาย่าง ปิ้ง ผัด ทอด สารพิษนี้มีผลต่อการกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ทำให้หัวใจบีบตัว ผู้ที่รับพิษเข้าไปจะมีอาการมึนงง สับสน แขนขาอ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หายใจหอบ วิงเวียน ปวดท้อง ท้องเดิน ชีพจรเต้นช้าลง และอาจเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย หากยางคางคกถูกตาจะทำให้เยื่อบุตาและแก้วตาอักเสบได้ ตาพร่ามัว จนถึงขั้นตาบอดได้ อาการเป็นพิษมักเกิดขึ้นช้าๆ หลังรับประทานคางคกแล้วหลายชั่วโมง เด็กจะสามารถทนต่อพิษได้มากกว่าผู้ใหญ่.-สำนักข่าวไทย