กรุงเทพฯ 28 ก.ค. – กรมทางหลวงสรุปสถานการณ์น้ำท่วม ยังอ่วม 40 สายทาง สั่งเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน-ดินโคลนถล่ม
กรมทางหลวงสรุปเหตุการณ์ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินเส้นทางสายหลัก ซึ่งจากการเกิดอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมามีน้ำท่วมพื้นที่ 15 จังหวัด มีสายทางที่มีสภาวะน้ำท่วม 40 สายทาง มีสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ 58 แห่ง การจราจรสามารถผ่านได้ 52 แห่ง ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น – ทางหลวงหมายเลข 2301 หินตั้ง – หนองสองห้อง ในพื้นที่ อ.หนองสองห้อง ช่วงกม.ที่ 25+800 ระดับน้ำสูง 560 ซม. แนะนำใช้เส้นทางเลี่ยง ทางหลวงหมายเลข 23 ถ.แจ้งสนิท จ่อทางหลวงหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ หรือ ทางหลวงหมายเลข 2301 ที่ กม.21+300 เลี่ยงไปถนนทางหลวงชนบท / จังหวัดมุกดาหาร – ทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ ในพื้นที่ อ.ดงหลวง ช่วง กม.ที่ 18 ระดับน้ำสูง 120 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง – ทางหลวงหมายเลข 2287 ดงหลวง – สานแว้ ในพื้นที่ อ.ดงหลวง ช่วง กม.ที่ 20 – 22 ระดับน้ำสูง 120 ซม. ไม่มีเส้นทางเลี่ยง
จังหวัดกาฬสินธุ์ – ทางหลวงหมายเลข 227 กาฬสินธุ์ – แยกดงแหลม ในพื้นที่ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ช่วง กม.ที่ 4 – 5 ผิวทางและโครงสร้างทางชำรุดเสียหาย ระดับน้ำสูง 100 ซม. /จังหวัดสกลนคร – ทางหลวงหมายเลข 12 สี่แยกสมเด็จ – คำพอก ในพื้นที่ อ.ห้วยผึ้ง ช่วง กม.ที่696 ทางเบี่ยงงานก่อสร้างสะพานขาด ไม่มีทางเลี่ยง และจังหวัดลพบุรี – ทางหลวงหมายเลข 2247 จงโก – ลำสมพุง ในพื้นที่ อ.ลำสนธิ ช่วง กม.ที่ 2 ระดับน้ำสูง 60 ซม. แนะนำใช้เส้นทางเลี่ยง ทางหลวงหมายเลข 2256 ที่ กม.20 ไป ทางหลวงหมายเลข 2243 ระยะทาง 22 กม. บรรจบทางสาย 205 ที่ กม.84+198
อย่างไรก็ตาม ยังเกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานของกรมทางหลวง ประกอบด้วย สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงในพื้นที่ เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นตลอด 24 ชม. โดยภารกิจหลักตอนนี้ คือ ช่วยให้การจราจรผ่านได้ก่อน หลังจากเมื่อน้ำลดจะทำการสำรวจความเสียหายเพื่อซ่อมแซม.-สำนักข่าวไทย