“อดีตพระเณรคำ” ยอมสละผ้าเหลือง-ฝากขังเช้านี้

กทม. 20 ก.ค. – “อดีตพระเณรคำ” กลับถึงไทยกลางดึก ดีเอสไอควบคุมตัวสอบแจ้ง 6 ข้อหา ด้านสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ แจ้งอาบัติปาราชิก ยอมสละผ้าเหลือง ฝากขังเช้านี้


บรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อคืนที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนจำนวนมากรอติดตามทำข่าวการควบคุมตัวนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ จากสหรัฐอเมริกา กลับมาดำเนินคดีในไทย ซึ่งได้เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 21.55 น. ด้วยเที่ยวบิน TG 677 ของสายการบินไทย

โดยสื่อมวลชนได้รับอนุญาตให้มารอติดตามทำข่าวบริเวณหน้าห้องรับรองบนชั้น 3 ของอาคารผู้โดยสาร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอ การท่าอากาศยาน และตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปประชุมหารือถึงแนวทางการรับตัวอดีตพระเณรคำ


เวลา 21.00 น. พ.ต.อ.เอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้เดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรอรับตัวอดีตพระเณรคำด้วยตัวเอง พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าได้รับรายงานจากทีมที่เดินทางไปรับตัวนายวิรพล สุขผล ยังนุ่งห่มจีวรตลอดเวลาขณะถูกควบคุมตัวมาจากสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เมื่อนายวิรพลมาถึงไทยได้มีการประสานตัวแทนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาร่วมสอบปากคำ และแจ้งถึงการมีมติการให้อดีตพระเณรคำขาดจากความเป็นพระ หากยังนุ่งห่มจีวรก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์

เวลา 22.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐได้ออกมาจากห้องรับรองบนชั้น 3 เดินลงบันไดเลื่อนมายังชั้น 2 ก่อนเข้าไปในห้องสายพานสัมภาระของชั้น 2 ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม เข้าได้เฉพาะบุคคลที่มีบัตร ทำให้สร้างความสับสนให้กับสื่อมวลชนที่พยายามเดินติดตามและสอบถามว่าอดีตพระเณรคำจะออกไปช่องทางใด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จนมีการคาดเดาว่าอดีตพระเณรคำน่าจะถูกคุมตัวออกจากประตูปกติบริเวณโซน C

ต่อมาเวลา 22.05 น. เที่ยวบิน TG677 ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรณภูมิ แต่อดีตพระเณรคำยังไม่ได้ปรากฏตัวต่อสื่อมวลชน จนเมื่อเวลา 23.00 น. มีรายงานว่าถูกคุมตัวไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว โดยออกไปช่องทางพิเศษ


จนกระทั่งเวลา 23.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ถูกควบคุมตัวมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้งผ้าเหลืองด้วยสีหน้าไร้ความกังวล ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวนที่เตรียมไว้บริเวณชั้น 6 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

พ.ต.อ.ไพสิฐ เปิดเผยว่า อดีตพระเณรคำยินดีสละผ้าเหลือง พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ส่วนสาเหตุที่ไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะอยากกลับประเทศไทย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะแจ้งข้อหาให้นายวิรพล สุขผล รับทราบทั้งหมด 6 ข้อหา ประกอบด้วย การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) และ (5), ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343, ฟอกเงิน ผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 และ 5, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี, กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร

โดยก่อนเข้าห้องควบคุมมีแพทย์จากโรงพยาบาลชลประทานตรวจร่างกายเบื้องต้น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์คดีความผิดเกี่ยวกับเพศ จากนั้นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้แจ้งคำสั่งเจ้าคณะวัดศรีสะเกษ เรื่องการปรับอาบัติปาราชิกให้รับทราบ ซึ่งจะขาดจากความเป็นพระทันที ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวสามารถใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง ระบุว่า ดีเอสไอได้จัดชุดพนักงานสอบสวน 2 ชุด สอบปากคำตามฐานความผิด เป็นข้อหาเกี่ยวกับเพศ 3 ข้อหา และอีก 3 ข้อหา คือความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฟอกเงิน และฉ้อโกง โดยทรัพย์สินของนายวิรพลทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศได้พิสูจน์ทราบก็อยู่ในบัญชีสำนวนที่ส่งให้อัยการ ส่วนทรัพย์สินในต่างประเทศเป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการ หากสอบปากคำเสร็จสิ้นจะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการ และส่งสำนวนฟ้องต่อศาลอาญาในวันนี้ (20 ก.ค.) ก่อนเวลา 12.00 น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่