นายกฯ กำชับแก้ปัญหาไกด์ต่างชาติเถื่อน

กทม.16 ก.ค.-นายกรัฐมนตรีกำชับแก้ปัญหาไกด์ต่างชาติเถื่อน พร้อมเร่งรัดการผลิตมัคคุเทศก์หลากหลายภาษาให้เพียงพอ ย้ำคุมเข้มทัวร์ศูนย์เหรียญ ปกป้องการท่องเที่ยวไทย


พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมาพันธ์สมาคมมัคคุเทศก์ เตรียมยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหามัคคุเทศก์เถื่อน หรือไกด์ต่างชาติ เข้ามาแย่งอาชีพไกด์ไทย รวมทั้งบริษัทนำเที่ยวที่พานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าในร้านค้าเครือข่ายของตน ว่า ได้รับทราบข้อเรียกร้องดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการในเรื่องนี้

“รัฐบาลไม่มีนโยบายให้คนต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์ในประเทศไทย เพราะอาชีพมัคคุเทศก์เป็นหนึ่งในอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทยตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้เชิญผู้แทนของบริษัทนำเที่ยวและกลุ่มมัคคุเทศก์ไปหารือเพื่อรับฟังปัญหา และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขอย่างต่อเนื่อง” พลโทสรรเสริญ กล่าว


พลโทสรรเสริญ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัญหามัคคุเทศก์ขาดแคลนเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.60 มีมัคคุเทศก์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยวทั้งสิ้น 70,655 คน เป็นมัคคุเทศก์ทั่วไป 46,880 คน และมัคคุเทศก์เฉพาะพื้นที่ 19,154 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นกลุ่มที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักมากที่สุด รองลงมาคือ จีน และญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ยังมีปริมาณไม่เพียงพอต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยปีละหลายล้านคน

“นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงการองเที่ยวและกีฬาหารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมกันวางแผนผลิตมัคคุเทศก์ภาษาต่าง ๆ ให้เข้าสู่ตลาดมากขึ้น รวมทั้งพัฒนามัคคุเทศก์ที่มีอยู่ให้สามารถใช้ภาษาที่สามรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบัน พร้อมกับแนะนำให้มัคคุเทศก์รู้จักพัฒนาทักษะของตนเองให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการด้วย” พลโทสรรเสริญ 

พลโทสรรเสริญ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กวดขันจับกุมบริษัทนำเที่ยวที่นำชาวต่างชาติมาเป็นมัคคุเทศก์ และพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าในร้านค้าเครือข่ายนั้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เข้าตรวจสอบการอบรมขายสิ่งของและให้ข้อมูลที่อาจส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม พร้อมทั้งยังร่วมมือกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนในการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และตรวจสอบนอมินีก่อนจะออกใบอนุญาตให้แก่ธุรกิจนำเที่ยวด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย

เหตุดินโคลนถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ดับ 4 สูญหาย 5

เชียงใหม่ 28 ส.ค. – พายุคาจิกิที่พัดถล่ม อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ทำน้ำป่าพัดดินโคลนถล่มหมู่บ้านปางอุ๋ง บ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง รถยนต์หลายสิบคันจมโคลน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ยังสูญหายอีก 5 ราย เจ้าหน้าที่เร่งค้นหา หมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักจากพายุคาจิกิ ทำให้เกิดดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย ดินโคลนทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง รถยนต์หลายสิบคันจมอยู่ในโคลน ล่าสุดเวลา 19.00 น. (27 ส.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่มแล้ว พบเสียชีวิต 4 ราย ยังสูญหายอีก 5 ราย นายนิกร แซ่เห่อ ผู้ใหญ่บ้านปางอุ๋ง เล่าว่า ดินโคลนไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านบางส่วนยังออกมาดูระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แค่ชั่วพริบตาบ้านอย่างน้อย 7 หลังถูกซัดหายไป เหลือไว้แค่พื้นและเสาบ้าน เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานระดมกำลังพร้อมเครื่องจักรเข้าช่วยเหลือชาวบ้านรื้อซากปรักหักพัง ทีมกู้ภัยกระจายกันค้นหาผู้สูญหาย พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือชาวบ้าน […]