รัฐบาลเดินหน้าจับหนัก “ทัวร์เถื่อน-ไกด์เถื่อน” ทั่วประเทศ

กทม. 10 พ.ค.-รัฐบาลเดินหน้าจับหนัก “ทัวร์เถื่อน-ไกด์เถื่อน” ทั่วประเทศ ย้ำโทษหนัก ปรับสูงสุด 5 แสน จำคุก 2 ปี พร้อมตั้งศูนย์เฉพาะกิจลุยตรวจเข้มทุกพื้นที่

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการร่วมแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง” (ศปต.) เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาทัวร์นอมินีและมัคคุเทศก์เถื่อนอย่างจริงจัง โดยเน้นการตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวและการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อยกระดับมาตรฐานและความปลอดภัยของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย


โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึงมีนาคม 2568 ได้มีการสุ่มตรวจสถานประกอบการของบริษัทนำเที่ยวจำนวน 940 ราย และมัคคุเทศก์ 338 ราย พบการกระทำความผิดของบริษัทนำเที่ยว ได้แก่ การประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต การไม่แสดงใบอนุญาต และการไม่ทำประกันให้นักท่องเที่ยว ส่วนความผิดของมัคคุเทศก์ ได้แก่ การปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีใบอนุญาต และการไม่แสดงใบสั่งงาน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่มีใบอนุญาตจะมีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ปฏิบัติหน้าที่มัคคุเทศก์โดยไม่มีใบอนุญาตจะมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยในการโฆษณาขายทัวร์ไม่ว่าช่องทางใด ต้องแสดงเลขที่ใบอนุญาต ชื่อ และที่ตั้งให้นักท่องเที่ยวทราบ และต้องใช้มัคคุเทศก์ที่มีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น


“รัฐบาลขอยืนยันความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยการดำเนินการอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องในการปราบปรามทัวร์เถื่อนและมัคคุเทศก์เถื่อน ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในเวทีโลก” นางสาวศศิกานต์​ กล่าว

ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสเกี่ยวกับบริษัทนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ที่กระทำผิด สามารถแจ้งผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพจกรมการท่องเที่ยว หรืออีเมล tgtcenter@tourism.go.th และ DOT-TGIS@tourism.go.th .-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

KNLA เข้าโจมตีทั้งกลางวัน-กลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

เสียงระเบิดดังสนั่นชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยังระอุ กกล. KNLA เข้าโจมตี ทั้งกลางวันและกลางคืน เสียงระเบิดดังถึง อ.ท่าสองยาง

ไฟไหม้โรงงานยาง วอดเกือบหมด

ระทึกกลางดึก ไฟไหม้โรงงานยาง ในพื้นที่เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี พนักงานกว่า 50 ชีวิต วิ่งหนีออกมาได้ทัน ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวน

รวบผู้ช่วยทันตแพทย์ ลักทอง 16 บาท ในหมู่บ้าน

รวบสาวแสบผู้ช่วยทันตแพทย์ ย่องเข้าบ้านพัก ย่านนนทบุรี ลักทอง 16 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท เอาเงินไปใช้หนี้และวิ่งเต้นคดีความ สอบประวัติ พบก่อเหตุในคดีลักทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง