วัดเขาไม้แก้วยันให้กรุ๊ปทัวร์จีนเช่าทำธุรกิจถูกต้อง

ทยา 29 ส.ค.-ตรวจวัดเขาไม้แก้ว ชลบุรี หลังเพจ “บิ๊กเกรียน” แฉเปิดธุรกิจหลอกทัวร์ศูนย์เหรียญ ด้านเจ้าอาวาสแจงทุกอย่างทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย-พ.ร.บ.สงฆ์ นำรายได้ไปใช้ประโยชน์ให้เกิดแก่ชุมชน วอนสังคมฟังข้อเท็จจริง


จากกรณีเพจ “บิ๊กเกรียน” โพสต์รูปภาพพร้อมเรื่องราวแฉกรุ๊ปทัวร์จีนเช่าได้พื้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี สร้างโบสถ์ปลอมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ ภายในยังมีการเปิดขายพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง แพงกว่าปกติหลักหลายหมื่นบาท โดยมีการจัดคนมาจำหน่ายตั้งแผงขายธูปเทียน และพบว่ามีรถทัวร์จอดอยู่หลายคัน หน้าอาคารอยู่ตรงข้ามพระอุโบสถ์ของวัดเป็นอาคารคล้ายพระอุโบสถ์ ส่วนด้านในมีศาลาตั้งพระพรหม เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกราบไหว้ ซึ่งเงินสะพัดเข้ากระเป๋านายทุนในประเทศจีน โดยพฤติกรรมลักษณะนี้เข้าข่ายแก๊งขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ จนทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายทั้งภาพลักษณ์ และรายได้เข้าประเทศ วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามากวดขันจับกุม 


ล่าสุดวันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบวัดที่เป็นกระแสข่าว พบว่าเป็นวัดเขาไม้แก้ว ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีตัวแทนจากสำนักพระพุทธศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ตำรวจ ตม.พัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง และ สภ.ห้วยใหญ่ เข้าร่วมตรวจสอบ โดยพบพระครูสุนทรรัตาภิรม เจ้าอาวาส พร้อมด้วยไวยาวัจกร คณะกรรมการวัด และตัวแทนบริษัทนำเที่ยวที่มาขอเช่าพื้นที่ภายในวัด รอให้ตรวจสอบและอธิบายถึงกรณีที่เกิดขึ้น

พระครูสุนทรรัตนาภิรม แจ้งว่าทุกอย่างก็ทำตามขั้นตอน เนื่องจากวัดค่อนข้างห่างไกล ทำให้วัดมีรายได้ไม่พอใช้จ่าย และการแบ่งพื้นที่บางส่วนให้บริษัทเอกชนมาเช่า ก็ขออนุญาตจากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทแห่งนี้มาขอเช่าพื้นที่บริเวณพื้นที่ว่างประมาณ 1 ไร่ ลานจอดรถด้านนอกเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่โดยรวมของวัดประมาณ 40 ไร่ เพื่อรับทัวร์นักท่องเที่ยวจีนซึ่งพากันเข้ามากราบไหว้พระ และเยี่ยมชมศาสนาสถานวันหนึ่งประมาณ 20-30 คัน โดยจะเสียค่าเช่าเดือนละ 3 หมื่นบาท ซึ่งทางวัดได้จัดทำบัญชีโดยละเอียดเพื่อแจ้งให้ทางสำนักพุทธฯทราบเป็นประจำทุกเดือน ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการสร้างโบสถ์ขึ้นอีก 1 หลัง เพื่อใช้รองรับนักท่องเที่ยวนั้นคงเป็นเรื่องของความคลาดเคลื่อน เพราะจริงๆคือศาลาการเปรียญที่ใช้ทำพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาหรือวันพระที่ชาวบ้านมาทำบุญ สร้างตั้งแต่ปี 2553 หรือกว่า 10 ปี ราคาก่อสร้างนับสิบล้านบาท ส่วนพระพรหม หรือองค์พระปฐมก็สร้างมาแต่เดิมอยู่แล้ว จะมีเพียงทางวัดจัดให้จัดชาวบ้านโดยจ้างให้มาจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียนให้แก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น 


ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องของบริษัท ซึ่งก็ได้กำชับว่าให้ทำอย่างถูกต้องและไม่รบกวนชาวบ้าน ที่สำคัญการเข้ามาของบริษัทก็ทำให้วัดมีรายได้เพิ่มขึ้นนำไปทำนุบำรุงศาสนา เช่นสร้างกุฏิ อาคาร ค่าใช้จ่ายในวัด รวมทั้งให้ทุนการศึกษาเด็กในโรงเรียนของวัดทั้ง 3 แห่ง สร้างอาชีพให้ชาวบ้านโดยการนำสินค้าโอทอปมาจำหน่าย การปลูกบ้านให้คนจน และการตั้งมูลนิธิสังฆาประชานุเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนพระเครื่องที่บอกว่าจำหน่ายในราคาแพงนั้นได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเป็นธรรม ส่วนเรื่องราคาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่พระทุกองค์ทางวัดก็ทำพิธีพุทธาภิเษกให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนจะแพงหรือถูกคงแล้วแต่ความพอใจของผู้ซื้อ เพราะไม่ได้มีการบัง คับขาย อีกอย่างพระมีทั้งทำจากเงิน ทองแดง และทองคำ ราคาก็แตกต่างกัน ดังนั้นการลงข่าวเช่นนี้ทำให้วัดเสียหายและไม่ถูกต้อง จึงอยากให้มารับฟังข้อเท็จจริงด้วย

ด้านนายเดชา ก่อเกิด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์วัดมีสิทธิ์ดำเนินการได้ แต่ต้องขออนุญาตอย่างถูกต้องว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร จากนั้นก็ทำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะสงฆ์ รายงานเจ้าคณะอำเภอ จังหวัด และนำเข้าสำนักพุทธฯ เพื่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดในการขออนุญาต ซึ่งทางวัดก็ทำอย่างถูกต้อง และก็มีการส่งรายงานบัญชีแก่สำนักพุทธฯ เป็นประจำทุกเดือน ตอนนี้เหลือเพียงการจัดทำผังพื้นที่ที่นำไปให้เช่าประโยชน์เพื่อประกอบในการขออนุญาตเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบความผิดอะไร แต่แทนที่จะเสียหายน่าจะเป็นเรื่องดีที่พานักท่องเที่ยวเข้าชมเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวต่างชาติ เพียงแต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม ไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือหลอกขายสินค้าในราคาแพง ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแล โดยถ้าพบความผิดหรือทำให้วัดเสีย หายก็ให้ยกเลิกไปเท่านั้น แต่นี่เป็นเพียงการพานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ไหว้พระ ทำบุญ และก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร

ขณะที่ตัวแทนบริษัทเอกชนผู้เช่า เปิดเผยว่ากิจการนี้ไม่ได้หลอกลวงนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด เป็นเพียงการนำนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมศาสนสถาน และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิมิมงคลเท่านั้นของวัดเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่ชื่นชอบในพระพุทธศาสนา ส่วนจะทำบุญหรือซื้อพระเครื่องหรือไม่ก็ไม่ได้บังคับ และทุกองค์ก็มีราคาติดแจ้งไว้อย่างถูกต้อง โดยกิจการนี้เพิ่งเปิดมาไม่นานมีพนักงานประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังเป็นข่าวทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาตรวจสอบและคุมตัวพนักงานบางส่วนไปแล้ว เพราะยังไม่มีใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักรอย่างถูกต้อง ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ขัดข้อง แต่ที่ไม่ได้จัดทำให้ ก็เพราะค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตสูงกว่าแสนบาทต่อราย จึงอยากให้พนักงานที่มีความตั้งใจและอยู่กับบริษัทไปตลอด ไม่ใช่พอทำให้ก็ออกไปหางานทำข้างนอกทำให้บริษัทเสียค่าใช้จ่ายฟรีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]