วัดเขาไม้แก้วยันให้กรุ๊ปทัวร์จีนเช่าทำธุรกิจถูกต้อง

ทยา 29 ส.ค.-ตรวจวัดเขาไม้แก้ว ชลบุรี หลังเพจ “บิ๊กเกรียน” แฉเปิดธุรกิจหลอกทัวร์ศูนย์เหรียญ ด้านเจ้าอาวาสแจงทุกอย่างทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย-พ.ร.บ.สงฆ์ นำรายได้ไปใช้ประโยชน์ให้เกิดแก่ชุมชน วอนสังคมฟังข้อเท็จจริง


จากกรณีเพจ “บิ๊กเกรียน” โพสต์รูปภาพพร้อมเรื่องราวแฉกรุ๊ปทัวร์จีนเช่าได้พื้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี สร้างโบสถ์ปลอมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ ภายในยังมีการเปิดขายพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง แพงกว่าปกติหลักหลายหมื่นบาท โดยมีการจัดคนมาจำหน่ายตั้งแผงขายธูปเทียน และพบว่ามีรถทัวร์จอดอยู่หลายคัน หน้าอาคารอยู่ตรงข้ามพระอุโบสถ์ของวัดเป็นอาคารคล้ายพระอุโบสถ์ ส่วนด้านในมีศาลาตั้งพระพรหม เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนกราบไหว้ ซึ่งเงินสะพัดเข้ากระเป๋านายทุนในประเทศจีน โดยพฤติกรรมลักษณะนี้เข้าข่ายแก๊งขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ จนทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายทั้งภาพลักษณ์ และรายได้เข้าประเทศ วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามากวดขันจับกุม 


ล่าสุดวันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบวัดที่เป็นกระแสข่าว พบว่าเป็นวัดเขาไม้แก้ว ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีตัวแทนจากสำนักพระพุทธศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ตำรวจ ตม.พัทยา ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง และ สภ.ห้วยใหญ่ เข้าร่วมตรวจสอบ โดยพบพระครูสุนทรรัตาภิรม เจ้าอาวาส พร้อมด้วยไวยาวัจกร คณะกรรมการวัด และตัวแทนบริษัทนำเที่ยวที่มาขอเช่าพื้นที่ภายในวัด รอให้ตรวจสอบและอธิบายถึงกรณีที่เกิดขึ้น

พระครูสุนทรรัตนาภิรม แจ้งว่าทุกอย่างก็ทำตามขั้นตอน เนื่องจากวัดค่อนข้างห่างไกล ทำให้วัดมีรายได้ไม่พอใช้จ่าย และการแบ่งพื้นที่บางส่วนให้บริษัทเอกชนมาเช่า ก็ขออนุญาตจากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทแห่งนี้มาขอเช่าพื้นที่บริเวณพื้นที่ว่างประมาณ 1 ไร่ ลานจอดรถด้านนอกเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่โดยรวมของวัดประมาณ 40 ไร่ เพื่อรับทัวร์นักท่องเที่ยวจีนซึ่งพากันเข้ามากราบไหว้พระ และเยี่ยมชมศาสนาสถานวันหนึ่งประมาณ 20-30 คัน โดยจะเสียค่าเช่าเดือนละ 3 หมื่นบาท ซึ่งทางวัดได้จัดทำบัญชีโดยละเอียดเพื่อแจ้งให้ทางสำนักพุทธฯทราบเป็นประจำทุกเดือน ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการสร้างโบสถ์ขึ้นอีก 1 หลัง เพื่อใช้รองรับนักท่องเที่ยวนั้นคงเป็นเรื่องของความคลาดเคลื่อน เพราะจริงๆคือศาลาการเปรียญที่ใช้ทำพิธีในวันสำคัญทางพุทธศาสนาหรือวันพระที่ชาวบ้านมาทำบุญ สร้างตั้งแต่ปี 2553 หรือกว่า 10 ปี ราคาก่อสร้างนับสิบล้านบาท ส่วนพระพรหม หรือองค์พระปฐมก็สร้างมาแต่เดิมอยู่แล้ว จะมีเพียงทางวัดจัดให้จัดชาวบ้านโดยจ้างให้มาจำหน่ายดอกไม้ ธูปเทียนให้แก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น 


ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องของบริษัท ซึ่งก็ได้กำชับว่าให้ทำอย่างถูกต้องและไม่รบกวนชาวบ้าน ที่สำคัญการเข้ามาของบริษัทก็ทำให้วัดมีรายได้เพิ่มขึ้นนำไปทำนุบำรุงศาสนา เช่นสร้างกุฏิ อาคาร ค่าใช้จ่ายในวัด รวมทั้งให้ทุนการศึกษาเด็กในโรงเรียนของวัดทั้ง 3 แห่ง สร้างอาชีพให้ชาวบ้านโดยการนำสินค้าโอทอปมาจำหน่าย การปลูกบ้านให้คนจน และการตั้งมูลนิธิสังฆาประชานุเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนพระเครื่องที่บอกว่าจำหน่ายในราคาแพงนั้นได้กำชับให้ดำเนินการอย่างเป็นธรรม ส่วนเรื่องราคาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่พระทุกองค์ทางวัดก็ทำพิธีพุทธาภิเษกให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนจะแพงหรือถูกคงแล้วแต่ความพอใจของผู้ซื้อ เพราะไม่ได้มีการบัง คับขาย อีกอย่างพระมีทั้งทำจากเงิน ทองแดง และทองคำ ราคาก็แตกต่างกัน ดังนั้นการลงข่าวเช่นนี้ทำให้วัดเสียหายและไม่ถูกต้อง จึงอยากให้มารับฟังข้อเท็จจริงด้วย

ด้านนายเดชา ก่อเกิด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่าตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์วัดมีสิทธิ์ดำเนินการได้ แต่ต้องขออนุญาตอย่างถูกต้องว่ามีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร จากนั้นก็ทำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะสงฆ์ รายงานเจ้าคณะอำเภอ จังหวัด และนำเข้าสำนักพุทธฯ เพื่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดในการขออนุญาต ซึ่งทางวัดก็ทำอย่างถูกต้อง และก็มีการส่งรายงานบัญชีแก่สำนักพุทธฯ เป็นประจำทุกเดือน ตอนนี้เหลือเพียงการจัดทำผังพื้นที่ที่นำไปให้เช่าประโยชน์เพื่อประกอบในการขออนุญาตเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบความผิดอะไร แต่แทนที่จะเสียหายน่าจะเป็นเรื่องดีที่พานักท่องเที่ยวเข้าชมเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวต่างชาติ เพียงแต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม ไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือหลอกขายสินค้าในราคาแพง ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องดูแล โดยถ้าพบความผิดหรือทำให้วัดเสีย หายก็ให้ยกเลิกไปเท่านั้น แต่นี่เป็นเพียงการพานักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ไหว้พระ ทำบุญ และก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร

ขณะที่ตัวแทนบริษัทเอกชนผู้เช่า เปิดเผยว่ากิจการนี้ไม่ได้หลอกลวงนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด เป็นเพียงการนำนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมศาสนสถาน และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิมิมงคลเท่านั้นของวัดเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่ชื่นชอบในพระพุทธศาสนา ส่วนจะทำบุญหรือซื้อพระเครื่องหรือไม่ก็ไม่ได้บังคับ และทุกองค์ก็มีราคาติดแจ้งไว้อย่างถูกต้อง โดยกิจการนี้เพิ่งเปิดมาไม่นานมีพนักงานประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังเป็นข่าวทางเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาตรวจสอบและคุมตัวพนักงานบางส่วนไปแล้ว เพราะยังไม่มีใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักรอย่างถูกต้อง ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ขัดข้อง แต่ที่ไม่ได้จัดทำให้ ก็เพราะค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตสูงกว่าแสนบาทต่อราย จึงอยากให้พนักงานที่มีความตั้งใจและอยู่กับบริษัทไปตลอด ไม่ใช่พอทำให้ก็ออกไปหางานทำข้างนอกทำให้บริษัทเสียค่าใช้จ่ายฟรีเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน