ที่ประชุม EEC เห็นชอบแนวทางการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก 3 แห่ง

ทำเนียบฯ 6 ก.ค.-ที่ประชุม EEC เห็นชอบแนวทางการพัฒนาท่าเรือน้ำลึก แหลมฉบัง สัตหีบ และมาบตาพุด โดยมีรถไฟทางคู่เข้าเชื่อมโยง พร้อมทั้งระบบบริการการขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ ยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระดับโลก


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ EEC ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกหลัก 3 แห่ง ได้แก่ แหลมฉบัง สัตหีบ และมาบตาพุด โดยมีรถไฟทางคู่เข้าเชื่อมโยง พร้อมทั้งระบบบริการการขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ เป็นโครงการหลักที่จะยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระดับโลก          

นายคณิศ กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จะมีระบบจัดการแบบอัตโนมัติที่ทันสมัย สามารถรองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านตู้ต่อปีในปัจจุบัน เป็น 18 ล้านตู้ต่อปี และขนส่งรถยนต์ได้เพิ่มจาก 1 ล้านคันต่อปี เป็น 3 ล้านคันต่อปี ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ซึ่งจะเปิดให้เอกชนร่วมทุนได้ในปี 2561 คาดว่าโครงการฯ จะแล้วเสร็จอย่างช้าในปี 2568          


นายคณิศ กล่าวอีกว่า ส่วนการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะช่วยขยายการนำเข้าวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นสูง และ Boi-economy, รองรับการขนถ่าย LNG เพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านตันต่อปี เป็น 62 ล้านตันต่อปี โครงการนี้อยู่ภายใต้การดูแลของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเปิดให้เอกชนลงทุนในปี 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 ขณะที่การพัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ จะมีการพัฒนาท่าเรือเฟอร์รี่ เพื่อรองรับการเชื่อมอ่าวไทย (สัตหีบ-กรุงเทพ-หัวหิน) ซึ่งจะเร่งรัดการออกแบบและก่อสร้างอาคารท่าเรือเฟอร์รี่ให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 ส่วนท่าเรือสำราญกำลังอยู่ในระหว่างศึกษาเตรียมการ          

นายคณิศ กล่าวอีกว่า สำหรับรถไฟทางคู่เข้าเชื่อมโยง 3 ท่าเรือ และมีระบบบริการการขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อนั้น จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบการขนส่งของประเทศให้สามารถเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางมาถึงท่าเรือ จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 30 ลดระยะเวลาในการขนส่งเฉลี่ยจากเดิม 24 ชั่วโมง ลงเหลือประมาณ 8 ชั่วโมง ทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศลดลงจากร้อยละ 14 ของ GDP ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 12 หรือประหยัดลงประมาณ 250,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะมีการลงทุน ประมาณ 68,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและสร้างทางคู่ รวมทั้งศูนย์กระจายและรวบรวมสินค้า ซึ่งสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรรับไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 รวมทั้งการพิจารณาจัดตั้งศูนย์กระจายและรวบรวมสินค้าตามความเหมาะสมระหว่างเสร้นทางรถไฟจากจังหวัดหนองคายถึงท่าเรือแหลมฉบัง          

นายคณิศ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการการร่วมลงทุนกับเอกชน หรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำขึ้น เพื่อให้การลงทุนสำคัญ ๆ ใน EEC เกิดความคล่องตัว โดยยังคงรักษากระบวนการและมาตรฐานความโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูล ตรวจสอบ การร่วมลงทุนกับภาคเอกชนโดยทั่วไปตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ปี 2556 และจะสามารถลดระยะเวลาการอนุมัติโครงการ โดยในแต่ละขั้นตอนจะดำเนินการร่วมกันและคู่ขนานกันไป ทำให้ลดระยะเวลาเหลือ 8-10 เดือน จากกรณีปกติใช้เวลา 40 เดือน          


“ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบหลักเกณฑ์การการจัดตั้งเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC โดยเน้นการใช้ประโยชน์ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ.และเอกชนที่เหลืออยู่ประมาณ 12,000 ไร่ และที่รอขอจัดตั้งเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมอยู่แล้วอีก 20,000 ไร่ และให้ประกาศเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในพื้นที่ 1,466 ไร่ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ของ กนอ. และให้สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) ประสานกับนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีพื้นที่เหลืออยู่ เพื่อกำหนดให้เป็นเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อให้สามารถระบุพื้นที่ให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนได้ทันที” นายคณิศ กล่าว          

นายคณิศ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ประกาศเขตส่งเสริมนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation:EECi) และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (Dagital Park Thailand:EECd) โดย EECi อยุ่ภายใต้การดูแลของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นฐานเชื่อมโยงและถ่ายทอดวิจัยและนวัตกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งอยู่บริเวณวังจันทร์วัลเล่ย์ จังหวัดระยอง ในพื้นที่ 3,000 ไร่ และบริเวณอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในพื้นที่ 120 ไร่ ส่วน EECd อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนในอุตสาหกรรมด้านดิจิทัลขนาดใหญ่และพัฒนากำลังคนด้านดิจิทัลให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงตามนโยบายรัฐบาล ตั้งอยู่ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในพื้นที่ 709 ไร่          

นายคณิศ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ รับทราบผลการทำความเข้าใจในพื้นที่ EEC ซึ่งประชาชนให้การสนับสนุนและร่วมกันแก้ไขข้อกังวล เพราะเห็นโอกาสที่จะได้รับการพัฒนา ทำให้อนาคตดีขึ้น โครงสร้างพื้นฐานดีขึ้น โอกาสในการประกอบอาชีพดีขึ้น โดยขอให้ภาครัฐช่วยแก้ปัญหาที่มีอยู่เดิม เช่น ความพอเพียงของน้ำ ระบบขนส่งสาธารณะ รวมทั้งเร่งการฝึกอบรมเยาวชนให้ทันการพัฒนา EEC

“นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมอีก 3 เรื่อง คือ 1.ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ EEC ให้มีการปรับการเกษตรให้สอดคล้องกับการพัฒนาของ EEC 2.ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดทำแผนการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้พื้นที่ EEC ได้รับความมั่นใจเรื่องสิ่งแวดล้อม และ 3.ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการดำเนินการโครงการถไฟทางคู่เชื่อมโยงจาก EEC ต่อไปยัง ทวาย-ย่างกุ้ง-ติลาวา เชื่อมโยงไปจนถึงอินเดีย ทั้งนี้ในข้อสั่งการเรื่องที่ 1 และ 2 ให้ สกรศ.ดำเนินการรวบรวมเสนอที่ประชุมฯ ต่อไป” นายคณิศ กล่าว

นายคณิศ  คาดว่า มูลค่าลงทุนในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานในโครงการ EEC ประมาณ 7 แสนล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลโครงการต่าง ๆ ได้ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า และมูลค่าการลงทุนจากบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนใน EEC คาดว่าประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยจะเน้นบริษัทขนาดใหญ่ เช่น อาลีบาบา โบอิ้ง แอร์บัส ทั้งนี้เชื่อว่าหากสามารถดึงนักลงทุนเข้ามาได้จะส่งผลดีต่อการหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศได้มากขึ้น พร้อมกันนี้ตั้งเป้าดึงบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนภายในปีนี้ให้ได้ 30 แห่ง และหลังจากที่ประชุมฯ ได้อนุมัติโครงการขนาดใหญ่แล้ว จะส่งผลดีต่อการเจรจากับนักลงทุนได้ง่ายขึ้น โดย สกรศ.มีแผนจะเดินทางไปโรดโชว์ที่จีนและยุโรป เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]

ออกหมายจับ “บังเอ็น” มือยิงพ่อ-ลูก 1 ขวบดับ เมียเจ็บ

กระบี่ 2 ก.ค. – ออกหมายจับ “บังเอ็น” ยิงถล่มยกครัวเพื่อนบ้านดับพร้อมลูกวัยแค่ 1 ขวบเศษ ส่วนภรรยาบาดเจ็บ คาดปมเหตุนกขุนทองหลุดกรง จากเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายวิวัฒน์ หรือ “บังเอ็น” อายุ 41 ปี ใช้ปืนยิงถล่ม บ้านนายอภิวัฒน์ อายุ 37 ปี ทำให้นายอภิวัฒน์ และลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ เสียชีวิต ส่วน น.ส.สุดารัตน์ ภรรยาของนายอภิวัฒน์ บาดเจ็บที่แขนขวา ล่าสุด ตำรวจเชิญตัว น.ส.หย้า อายุ 70 ปี แม่ของนายวิวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เข้าสอบปากคำที่ สภ.เกาะลันตา ให้ข้อมูลว่า มูลเหตุของเรื่องมาจากนกขุนทอง 2 ตัว ที่ลูกชายซื้อมาในราคา 8,000 บาท ซึ่งตนเป็นคนเลี้ยงและให้อาหารมาประมาณ 2 เดือน […]

“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ค.-“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย ขณะที่ “ภูมิธรรม” เผยนายกฯ เข้มแข็ง เชื่อที่ผ่านมาทำดีสุดแล้ว พร้อมสู้ต่อ ฝากบอก สส. สู้ไปด้วยกัน ขอทุกคนจับมือฝ่าวิกฤติ ลั่นไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ด้าน “วิสุทธิ์” ย้ำ สส. ห้ามขาด ห้ามตาย ป่วยก็ให้อดทนกินยา ป้องกันองค์ประชุมล่ม การประชุม สส.พรรคเพื่อไทยวันนี้ (2 ก.ค.) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ประธานการประชุม และมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมนั่งหัวโต๊ะด้วย ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เดิมทีแจ้งว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการเข้าร่วมประชุม สส. พรรคเพื่อไทยด้วย ด้านนายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า […]