กทม. 5 ก.ค.- ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุกจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 4 ปี ในคดีร่วมระเบิดหลังพรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 53
ศาลอาญา รัชดาฯ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีนางวริศรียา บุญสม จำเลยที่ 4 ยื่นฎีกากรณีร่วมกับนายเอนกสิงขุนทด และพวกรวม 6 คน คดีวางระเบิดหลังพรรคภูมิใจไทย ปี 2553 ฐานร่วมกันทำวัตถุระเบิด, มีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร และกระทำให้เกิดระเบิดฯ
นายพลเทพ ปวนยา ทนายจำเลย กล่าวว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุกนางวริศรียา 4 ปี เนื่องจากเห็นว่า ฎีกาของจำเลย ทั้งในประเด็นที่อ้างว่า คำให้การของจำเลยที่ 1, 2 และ 5 ที่ซัดทอดมาเป็นเพียงคำบอกเล่า ไม่น่าเชื่อถือ อีกทั้งช่วงเวลาที่จำเลยที่ 1, 2 และ 5 ให้การนั้น ขัดแย้งกันเอง แต่ศาลฎีกาเห็นว่า คำบอกเล่าดังกล่าวเป็นคำบอกเล่าที่บอกเล่าถึงมูลเหตุ น่าเชื่อว่าจะพิสูจน์ได้ ประกอบกับคำให้การของจำเลยทั้ง 3 ก่อนหน้า ไม่ได้เป็นการเตรียมกันมาก่อน อีกทั้งข้อฎีกาที่จำเลยอ้างว่าไม่ได้เป็นแนวร่วม นปช. เป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยรู้เห็นเพียงคนเดียว ไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุกเป็นเวลา 4 ปี
คดีนี้นางวริศรียายื่นฎีกา เนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 4 ปี จำเลยจึงยื่นฎีกา ส่วนจำเลยที่เหลือไม่ยื่นฎีกา และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้จำคุกนายเดชพล พุทธจง, นายกำพล คำคง, นายกอบชัย บุญปลอด คนละ 4 ปี และปรับคนละ 66.66 บาท ส่วนนายสุริยา ภูมิวงษ์ จำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยนายสุริยาถูกศาลออกหมายจับ และสั่งปรับนายประกัน 500,000 บาท และเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี
ขณะที่นายเอนก รับสารภาพ และศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 25 ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกในทุกกรรมแล้ว รวมโทษจำคุก 27 ปี 6 เดือน และปรับ 50 บาท.-สำนักข่าวไทย