รร.ดุสิตฯ 4 ก.ค. – กกร.พอใจ คสช.ให้เวลาปรับตัว 180 วัน แต่ยังไม่แน่ใจเพียงพอแก้ปัญหาทั้งหมดหรือไม่
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุม คสช.มีมติเห็นชอบให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ชะลอบังคับใช้ พ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว จำนวน 4 มาตรา ออกไป 180 วัน เพื่อให้เวลานายจ้างและแรงงานปรับตัว ว่า พอใจกับมติของ คสช. เพราะขยายเวลาออกไปเพิ่มขึ้นอีกถึง 60 วัน จากเดิมมีข่าวว่าจะให้เวลาดำเนินการให้ถูกต้อง 120 วัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ระยะเวลาที่ให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวปรับตัวจะเพียงพอหรือไม่ ทั้งนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อทราบระยะเวลาที่รัฐบาลให้มาแล้วก็ต้องรีบดำเนินการ ที่ผ่านมาภาครัฐเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความเห็นแล้ว ทำให้ช่วงนี้มีการนำแรงงานเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง ส่งผลให้ปัญหาการค้ามนุษย์และการจัดอันดับการค้ามนุษย์ที่สหรัฐจัดไทยอยู่ในอันดับเทียร์ 2 จะหายไปในที่สุด สำหรับโทษปรับตามกฎหมายที่ออกมานั้น ถือว่า สูง แต่นับเป็นจุดเริ่มต้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน อย่างไรก็ตาม เรื่องโทษปรับเป็นอีกโจทย์ที่ต้องพิจารณากันต่อไป
ทั้งนี้ กกร.เห็นว่าต้องมีการจัดการปัญหาอย่างจริงจัง และเข้าใจว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กำลังเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะมีการเสนอแนวทางดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและให้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานประกาศอีกครั้ง
นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวมีกระบวนการที่นายจ้างลูกจ้างแรงงานต่างชาติต้องจับคู่แก้ไขเรื่องการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องไปด้วยกัน ขณะนี้รอการออกมาตรการของกระทรวงแรงงานว่าจะรองรับเพียงพอหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าระยะเวลา 180 วัน ที่ คสช.ใช้ ม.44 ชะลอการบังคังใช้กฎหมายนั้น จะเพียงพอกับการดำเนินการขึ้นทะเบียนหรือไม่ ทั้งนี้ เชื่อว่าการขึ้นทะเบียนแรงงาน ภาครัฐคงไม่เปิดเป็นการทั่วไปให้แรงงานเข้ามาโดยลำพัง จะต้องมีนายจ้าง ลูกจ้างจับคู่ชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาให้เสร็จ โดยจะต้องประเมินว่า มีนายจ้างลูกจ้างรวมกี่คู่ และขึ้นกับหน่วยงานภาครัฐว่าจะจัดสถานที่ให้เพียงพอ จนสามารถดำเนินการได้ทันในเวลาที่กำหนด แต่อาจมีปัญหาบ้าง ต้องดูเชิงปฎิบัติในการอำนวยความสะดวก ส่วนการที่มีข่าวการเรียกเงินจากปัญหาแรงงานผิดกฎหมายนี้ ภาครัฐออกมายอมรับว่ามีกรณีการเรียกรับสินบนจริง แต่ทางส.อ.ท.ไม่มีหลักฐานเรื่องดังกล่าว การเพิ่มค่าปรับที่สูงขึ้นของกฎหมาย นับเป็นการเปิดช่องให้เกิดปัญหาดังกล่าว ขณะนี้ ส.อ.ท.แจ้งให้สมาชิกทราบว่าหากมีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ขอให้แจ้งภาครัฐดำเนินการทันที ส่วนเรื่องโทษปรับค้ามนุษย์เห็นด้วยกับผู้ที่จงใจทำผิดกฎหมาย แต่ต้องเปิดโอกาสผู้บริสุทธิ์ที่ตั้งใจทำถูกกฎหมาย
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ระยะเวลา 180 วัน ที่ คสช.ให้มานั้น นับว่าดี อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในไทย ทั้งในภาคการเกษตร เช่น แรงงานเก็บผลไม้ แรงงานทำงานเป็นลูกจ้างของเอสเอ็มอี รวมถึงงานบริการต่าง ๆ ที่มีแรงงานต่างชาติช่วยงาน เช่น การล้างจาน เป็นต้น รวมถึงแรงงานต่างชาติที่ทำงานเป็นแม่บ้านที่มีจำนวนค่อนข้างมาก การรายงานตัวทำให้ถูกกฎหมายคงต้องมีนายจ้างไปด้วย
นายกลินท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตอาจเสริมเรื่องการแก้กฎหมายอาชีพสงวนของคนไทย เช่น อาชีพก่ออิฐ ฉาบปูน ที่ปัจจุบันแรงงานต่างชาติทำอาชีพนี้อยู่แล้ว ต้องลงลึกอีกครั้งในเรื่องนี้ แต่รู้สึกดีใจที่ภาครัฐตอบสนองเรื่องนี้อย่างรวดเร็วและการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวคงทันเวลา อย่างไรก็ตาม เป็นคนละเรื่องกับปัญหาการค้ามนุษย์ที่สหรัฐจัดอันดับไทยอยู่ในอันดับเทียร์ 2 แต่เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวครั้งนี้จะทำให้ปัญหาการค้าดีขึ้น. – สำนักข่าวไทย