ทำเนียบ 23 มิ.ย.-นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ที่มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นประธานว่ากองทุนหมู่บ้านเป็นกลไกในการผลักดัน Local Economy ซึ่งเป็นเครือข่ายที่มีสมาชิกจำนวนมากกว่า 13 ล้านคน โดยใช้กลไกที่สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการแก้ปัญหาและพัฒนาศักยภาพประชาชนให้มีชีวิตวามเป็นอยู่ที่ดี ช่วยเหลือเกษตรกร ธุรกิจ SMEs วิสาหกิจชุมชน และหมู่บ้านทั่วประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจะเพิ่มงบประมาณกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั้ง 7 หมื่นกว่ากองทุนทั่วประเทศ ให้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการเพิ่มศักยภาพฯ ตามแนวทางประชารัฐ 15,000 ล้านบาท ภายในเดือนกรกฎาคม 2560 เพื่อเป็นการปฎิรูปขับเคลื่อนงานกองทุนหมู่บ้านตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำระเบียบคาดว่าหากผ่านความเห็นชอบแล้วจะสามารถอนุมัติงบประมาณให้ทุกหมู่บ้านได้ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เบื้องต้นมีโครงการเสนอเข้ามาแล้วกว่า ร้อยละ 90 ของหมู่บ้านทั้งหมด
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้ให้ความเห็นชอบแผนงานและแนวทางการฟื้นฟู และพัฒนาศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2560 โดยจะพยายามส่งเสริมสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่มีปัญหาสามารถฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพให้สามารถรับการเพิ่มทุนล้านที่ 2ได้มากที่สุดในปีนี้
ขณะเดียวกันยังรับทราบผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนประจำปี 2559 ซึ่ง ได้อนุมัติโครงการไป 66,337 กองทุน วงเงิน 33,131,773,355 บาท หรือร้อยละ 94.66 ของเป้าหมาย โดยโครงการที่เสนอขอและได้รับการสนับสนุนใน 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้านค้าชุมชน ร้อยละ 26.41น้ำดื่มชุมชน ร้อยละ 13.31 ปุ๋ย/ยา/เมล็ดพันธ์ ร้อยละ 12.07 บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตร ร้อยละ 8.04และบริการจัดเลี้ยง ร้อยละ 4.69 ซึ่ง ได้รับรายงานข้อมูลความเคลื่อนไหวของบัญชีประชารัฐกองทุนหมู่บ้านฯ จากสถาบันการเงินว่าได้มีเงินเพิ่มขึ้นจากบัญชีประชารัฐของกองทุนแล้ว จำนวนกว่า 2.988 พันล้านบาท แสดงว่ากองทุนมีผลตอบแทนจากโครงการเป็นรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 4.96 จากจำนวนเงินที่โอนลงไป.-สำนักข่าวไทย