จิตแพทย์ชี้ผู้ก่อคดีอาญา มีอาการทางจิตหรือไม่ ต้องวินิจฉัย

กทม.5 มิ.ย.-กรมสุขภาพจิตเผยปัญหาความรุนแรงส่วนใหญ่ในสังคมพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเครียด-การเลี้ยงดู-สื่อ  ส่วนผู้ก่อคดีไม่จำเป็นต้องป่วยทางจิต เพราะผู้ป่วยไม่มีกระบวนการคิดซับซ้อน แต่จะมีอาการทางจิตหรือไม่นั้น  ต้องเข้ากระบวนการวินิจฉัย


น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต  กล่าวว่า ความรุนแรงที่เป็นปัญหาส่วนใหญ่ในสังคมปัจจุบัน เป็นความรุนแรงที่เกิดจากการควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ เช่น การทะเลาะเบาะแว้ง การใช้ความรุนแรงในครอบครัว หรือการทะเลาะวิวาทบนท้องถนน เหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเครียดและการเลี้ยงดู ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ ทำให้คนเรามีแนวโน้มที่จะสามารถควบคุมความรุนแรงของตนเองได้มากน้อยเพียงใดแต่ถ้าความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น มีการวางแผน มีการจงใจ ไตร่ตรองมาอย่างดี ด้วยวัตถุประสงค์ เช่น  กระทำผิดกฎหมาย ปกปิดความผิด ขัดแย้งกันในเชิงผลประโยชน์ อำพรางคดี ถือเป็นเรื่องของอาชญากรรม 


ทั้งนี้ คำถามที่มักพบบ่อยว่าผู้ก่ออาชญากรรมด้วยวิธีแปลกๆ มีอาการทางจิตหรือไม่นั้น หากทีมสอบสวนประเมินแล้วว่าอาจมีพฤติกรรมทางจิตก็จะส่งเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยให้จิตแพทย์ช่วยประเมิน ตรวจทางห้อง ปฏิบัติการก่อนลงความเห็น พร้อมส่งตัวรักษาตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อคดีไม่จำเป็นต้องป่วยทางจิตหรือจิตผิดปกติเสมอไปและพบได้น้อยมาก ซึ่งหากเป็นผู้ป่วยทางจิต จะไม่มีกระบวนการความคิดที่ซับซ้อน และจะหลุดจากโลกของความเป็นจริง

 


นอกจากนี้ สังคมได้เป็นห่วงและมีการตั้งคำถามถึงผลกระทบจากการเสพสื่อความรุนแรง รวมทั้งแนวทางป้องกันหรือเลี้ยงดูลูกอย่างไรไม่ให้เป็นอาชญากร ในส่วนของสื่อจะส่งผลกระทบมากกับกลุ่มเด็กที่มีความเปราะบางด้านจิตใจอยู่แล้ว เช่น กลุ่มเด็กที่เติบโตมาในวัฒนธรรมหรือสภาวะสังคมที่มีความรุนแรงสูง ครอบครัวมีการทะเลาะวิวาท ใช้ความรุนแรง หรือเด็กถูกทอดทิ้ง ถูกกระทำความรุนแรงโดยตรง เกิดเป็นความเครียดสะสมในจิตใจ กลายเป็นวิถีในการแก้ปัญหา การเห็นสื่อความรุนแรงบ่อยๆ ทั้งในชีวิตครอบครัวและสังคม ในสื่อกระแสหลัก สื่อโซเชี่ยล หรือเกมออนไลน์และออฟไลน์ ที่มีแต่ความก้าวร้าว เต็มไปด้วยเรื่องของการฆ่า การทำลายล้างกัน ย่อมทำให้เด็กเกิดความกระด้าง ชาชิน ต่อความสูญเสียและความเจ็บปวด บางครั้งมองเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า หรือภาพที่เลวร้ายในสื่อ เป็นตัวชี้นำการแสดงออกความเก็บกดทางอารมณ์ที่ผิดๆ ย่อมทำให้เด็กกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ มีพื้นฐานเติบโตขึ้นด้วยการใช้ความรุนแรง เพราะเห็นว่าเป็นแบบอย่าง อีกทั้งทำให้มีความยับยั้งชั่งใจลดน้อยลง มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ตนเองต่ำ ดังนั้น สัมพันธภาพในครอบครัวโดยเฉพาะสัมพันธภาพที่ดีของพ่อกับแม่ ตลอดจนการเลี้ยงดูลูกด้วยความรักความเมตตา ไม่ใช้ความรุนแรง มีเวลาและทำกิจกรรมดีๆร่วมกันในครอบครัว รวมทั้งการดูสื่อหรือเล่นอยู่ด้วยกับลูก ให้คำแนะนำ หรืออธิบายให้ฟังได้ถึงข้อดีข้อเสีย เหล่านี้จะทำให้เด็กรู้สึกถึงการได้รับความเอาใจใส่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้เด็กมีความมั่นคงภายในจิตใจที่เชื่อมโยงโดยตรงกับความสามารถของเด็กในการควบคุมความรู้สึกก้าวร้าวภายในตนเอง ทำให้เด็กเติบโตขึ้นโดยไม่ใช้ความรุนแรงได้ 

ด้าน นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวเสริมว่า การใช้ความรุนแรงที่มาจากอารมณ์และความเครียด จะต่างกับความรุนแรงที่เป็นอาชญากรรม ซึ่งทำด้วยความจงใจและไตร่ตรองเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง นอกจากนี้ ในแง่ของการเลี้ยงดู มีการ ศึกษา พบว่าความรุนแรงจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก โดยเฉพาะช่วงปฐมวัยและวัยเรียน ที่เติบโตมาในลักษณะขาดความรักความอบอุ่นในครอบครัว เด็กถูกทำร้าย ถูกทอดทิ้ง จะทำให้เด็กสะสมความรุนแรงและแสดงออกกับสิ่งของ สัตว์เลี้ยงและเพื่อน โดยไม่รู้สึกผิดและพอกพูนจนเป็นวิถีชีวิต เข้าสู่กระบวนการของความรุนแรง กลายเป็นอาชญากรได้ในที่สุด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก