ธปท. 17 พ.ค. – ธปท. จับมือ 16 แบงก์ เปิดคลินิกแก้หนี้บัตรรูดปื๊ด ดีเดย์ มิ.ย.นี้ คิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 7
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นจนอาจกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและภาพรวมเศรษฐกิจระยะยาว ธปท. สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ สถาบันการเงิน 16 แห่ง และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ( SAM ) ได้ลงนามร่วมกันจัดทำโครงการแก้ปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน หรือคลินิกแก้หนี้ เพื่อช่วยให้ลูกหนี้ที่สุจริตและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาได้มีโอกาสแก้ปัญหาหนี้สินที่มีกับเจ้าหนี้หลายรายอย่างครบวงจรและเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยให้ SAM ทำหน้าที่เป็นตัวแทนเจ้าหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกหนี้ปรับพฤติกรรมไม่ให้ก่อหนี้เพิ่มอีก
สำหรับโครงการนำร่องจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นบุคคลธรรมดา มีเงินเดือนประจำ อายุไม่เกิน 65 ปี มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่หลักประกันค้างเกินกว่า 3 เดือน หรือ 90 วัน กับธนาคารตั้งแต่ 2 แห่ง ขึ้นไป ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ไม่ถูกฟ้องดำเนินคดี ยอดหนี้เงินต้นค้างชำระรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 7 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี คาดว่าจะมีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการนำร่องหลายแสนราย มูลหนี้ประมาณ 100,000 ล้านบาท
“ระยะแรก ธปท.และ SAM จะเริ่มแก้ปัญหาหนี้ของลูกหนี้สถาบันการเงินก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปยังหนี้ของนอนแบงก์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายเพิ่มนิยามให้ SAM สามารถแก้ปัญหาหนี้ของนอนแบงก์ได้ ” นายวิรไท กล่าว
ด้านนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีวินัยทางการเงินที่ดี หากมีการชำระทุกงวดตรงเวลาจะได้รับการลดดอกเบี้ย หากยอดหนี้ไม่เกิน. 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 4 และสูงสุดไม่เกินร้อยละ 7 ที่สำคัญผู้เข้าร่วมโครงการต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มในระยะเวลา 5 ปี และต้องพร้อมเรียนรู้การสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ประโยชน์จากการแก้หนี้ คือ ไม่ถูกทวงถามหนี้จากเจ้าหนี้หลายราย ลดภาระการผ่อนชำระต่อเดือน รวมหนี้และผ่อนชำระที่เดียว ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการที่ www.คลินิกแก้หนี้.com , wwww.debtclinicbysam.com และ 02-610-2266 ทุกวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น.
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าหนี้ครัวเรือนปี 2559 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 79.9 จากปี 2558 ที่ร้อยละ 81.2 แต่พบว่าผู้เป็นหนี้มีอายุน้อยลงเป็นหนี้ระยะเวลานานขึ้นและวงเงินหนี้สูงขึ้นจาก 70,000 บาทต่อคน มาเป็น 150,000 บาทต่อคน โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานอายุ 29 ปีขึ้นไปมีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วันมากขึ้น และระดับหนี้ของคนไทยไม่ได้ลดลง แม้จะอยู่ในวัยใกล้เกษียณ ซึ่งจะกระทบต่อการดำรงชีวิตและภาพรวมเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ธปท.เชื่อว่าแนวโน้มหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีของไทยมีโอกาสปรับตัวลดลง โดยเฉพาะหนี้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถยนต์คันแรกระมัดระวังมากขึ้น
สำหรับธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารซิตี้แบงก์ สาขากรุงเทพ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารยูโอบี ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) และ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) .- สำนักข่าวไทย
