คลินิกแก้หนี้ by SAM” ปิด Q1 สวย ชูคนไทยร่วมมือช่วยชาติลดหนี้ครัวเรือน

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.-คลินิกแก้หนี้ by SAM” ปิด Q1 สวย ชูคนไทยร่วมมือช่วยชาติลดหนี้ครัวเรือน ดันยอดใบสมัครไตรมาสแรกพุ่ง ย้ำสนองนโยบายรัฐช่วยเหลือลูกหนี้คงดอกเบี้ยต่ำ 3-5 % ผ่อนนานสุดถึง 10 ปี มั่นใจสิ้นปี 67 ทะลุเป้าหมาย 55,000 บัญชี


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2567 ของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยพบว่ามีจำนวนผู้ยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการมากถึง 20,267 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 ซึ่งจำนวนผู้ผ่านคุณสมบัติและอยู่ระหว่างรอเอกสารตรวจสอบ มีจำนวนรวม 14,311 ราย หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ในไตรมาสแรกปี 2567 มีจำนวนผู้ที่ทยอยลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วจำนวน 7,145 รายหรือ 19,757 บัญชี เพิ่มขึ้น 2.3 เท่า คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นรวม 1,616 ลบ.

ปัจจุบัน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” มีลูกค้าตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการประมาณ 46,720 ราย คิดเป็น 129,950 บัญชี  รวมภาระหนี้เงินต้นคงเหลือตามสัญญา 9,460 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยเงินต้นคงเหลือตามสัญญารายละ 202,440 บาท ภาระหนี้ของผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 50,000 – 200,000 บาท และอยู่ใน Gen Y กับ Gen X สัดส่วนร้อยละ 61 และ 35 ตามลำดับ จำนวนบัญชีเฉลี่ย 2.7 บัญชีต่อราย และมีค่างวดผ่อนชำระเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2,470 บาท โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระเฉลี่ยอยู่ที่ 92 เดือน


นอกจากนี้ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” พบว่าลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ยังไม่ดำเนินคดีมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น คาดว่ามาจากปัญหาหนี้ส่วนบุคคลเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และเป็นเรื่องใกล้ตัว จึงต้องการแก้ไขปัญหาหนี้เร็วขึ้น รวมทั้งความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่ช่วยกันสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการคลินิกแก้หนี้ ส่งผลให้ประชาชนรู้จักและเริ่มสนใจการแก้ไขปัญหาหนี้ด้วยวิธีการปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้นด้วย

“ความสำเร็จของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ดังกล่าว เป็นผลมาจากความร่วมมือกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมทั้งสถาบันการเงินต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 32 แห่งในการปรับเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ให้กับลูกค้าที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ค้างชำระเกินกว่า 120 วัน (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนปัจจุบันมีสถานะค้างชำระตั้งแต่ 121-150 วัน ขึ้นไป) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้เลย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ปี 66  ที่ผ่านมา จากเดิมที่ต้องกำหนดช่วงเวลาของการเป็นหนี้เสียในแต่ละช่วงเวลา ส่งผลให้ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” สามารถช่วยเหลือผู้ที่เป็นหนี้เสียและผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้เสียได้รวดเร็วขึ้น รวมไปถึงเงื่อนไขการผ่อนชำระและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ รวมทั้งระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวสูงสุดถึง 10 ปี ทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้มีความเป็นไปได้มากขึ้น  ขณะที่ประชาชนเองก็เกิดความตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้สินของตัวเองมากขึ้น  นับว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของคนไทยให้ลดลงโดยเร็วและส่งผลให้จำนวนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มสูงขึ้น โดยปี 2567 นี้ คาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกับโครงการฯ ได้ไม่น้อยกว่า 55,000 บัญชี

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เริ่มดำเนินการเมื่อเดือน มิ.ย. 60 ถึง 31 มี.ค.2567 ได้ช่วยเหลือคนไทยและอีกหลายชีวิตในแต่ละครัวเรือนปลดหนี้สิน สามารถลุกขึ้นยืน กลับมาดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้  โดยมีจำนวนลูกค้าที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 2,047 ราย หรือ 5,037 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นตามสัญญาฯ รวมทั้งสิ้น 288 ล้านบาท หรือชำระหนี้เสร็จสิ้นไปแล้วร้อยละ 3.35 โดยลูกค้าส่วนใหญ่สามารถผ่อนชำระเสร็จสิ้นได้ก่อนกำหนดระยะเวลาตามสัญญา ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของ SAM ในการให้โอกาสลูกค้า สรุปจำนวนเงินที่ได้รับชำระจากลูกค้าใน “ โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ตลอด 7 ปีตั้งแต่เริ่มดำเนินการ คิดเป็นเงินรวมแล้วสูงถึง 2,700 ล้านบาท  นับว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM”  เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนและลดปริมาณหนี้เสียของระบบสถาบันการเงินในประเทศ  รวมทั้งช่วยเหลือ ฟื้นฟู และดูแลคนไทยที่มีปัญหาหนี้สินกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคง แข็งแรงโดยเร็วที่สุด  อันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม   


ทั้งนี้ เป็นที่น่าเสียดายว่ายังมีลูกค้าบางส่วนที่ต้องออกจากโครงการก่อนหมดระยะเวลาสัญญา เนื่องจากผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้น “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM”  จึงขอแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า หากพบว่าตนเองเริ่มมีปัญหาการผ่อนชำระค่างวด และมีแนวโน้มว่าไม่สามารถทำตามเงื่อนไขของโครงการฯ ได้ ก็ขอให้รีบติดต่อกับโครงการเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป 

“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM”  ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วัน ด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเพียงร้อยละ 3-5 ต่อปี และระยะเวลาผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี โดยมีทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้ เป็น 3 ทางเลือก คือ  1. ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี   2. ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี  3. ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี โดยมีคุณสมบัติของผู้สมัคร คือเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี มียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท

“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน (โซนลิฟท์แก้ว) ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (BTS สถานีรัชโยธิน) หรือสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com  หรือ แอดไลน์ @debtclinicbysam และ Facebook คลินิกแก้หนี้ by SAM หรือติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ Call Center 1443 .-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]