คลินิกแก้หนี้ by SAM” ปิด Q1 สวย ชูคนไทยร่วมมือช่วยชาติลดหนี้ครัวเรือน

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.-คลินิกแก้หนี้ by SAM” ปิด Q1 สวย ชูคนไทยร่วมมือช่วยชาติลดหนี้ครัวเรือน ดันยอดใบสมัครไตรมาสแรกพุ่ง ย้ำสนองนโยบายรัฐช่วยเหลือลูกหนี้คงดอกเบี้ยต่ำ 3-5 % ผ่อนนานสุดถึง 10 ปี มั่นใจสิ้นปี 67 ทะลุเป้าหมาย 55,000 บัญชี


นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2567 ของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยพบว่ามีจำนวนผู้ยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการมากถึง 20,267 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 ซึ่งจำนวนผู้ผ่านคุณสมบัติและอยู่ระหว่างรอเอกสารตรวจสอบ มีจำนวนรวม 14,311 ราย หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ในไตรมาสแรกปี 2567 มีจำนวนผู้ที่ทยอยลงนามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วจำนวน 7,145 รายหรือ 19,757 บัญชี เพิ่มขึ้น 2.3 เท่า คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นรวม 1,616 ลบ.

ปัจจุบัน “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” มีลูกค้าตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการประมาณ 46,720 ราย คิดเป็น 129,950 บัญชี  รวมภาระหนี้เงินต้นคงเหลือตามสัญญา 9,460 ล้านบาท ค่าเฉลี่ยเงินต้นคงเหลือตามสัญญารายละ 202,440 บาท ภาระหนี้ของผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 50,000 – 200,000 บาท และอยู่ใน Gen Y กับ Gen X สัดส่วนร้อยละ 61 และ 35 ตามลำดับ จำนวนบัญชีเฉลี่ย 2.7 บัญชีต่อราย และมีค่างวดผ่อนชำระเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 2,470 บาท โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระเฉลี่ยอยู่ที่ 92 เดือน


นอกจากนี้ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” พบว่าลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ยังไม่ดำเนินคดีมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น คาดว่ามาจากปัญหาหนี้ส่วนบุคคลเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และเป็นเรื่องใกล้ตัว จึงต้องการแก้ไขปัญหาหนี้เร็วขึ้น รวมทั้งความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่ช่วยกันสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการคลินิกแก้หนี้ ส่งผลให้ประชาชนรู้จักและเริ่มสนใจการแก้ไขปัญหาหนี้ด้วยวิธีการปรับโครงสร้างหนี้มากขึ้นด้วย

“ความสำเร็จของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ดังกล่าว เป็นผลมาจากความร่วมมือกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมทั้งสถาบันการเงินต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 32 แห่งในการปรับเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ให้กับลูกค้าที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน ค้างชำระเกินกว่า 120 วัน (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนปัจจุบันมีสถานะค้างชำระตั้งแต่ 121-150 วัน ขึ้นไป) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ได้เลย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ปี 66  ที่ผ่านมา จากเดิมที่ต้องกำหนดช่วงเวลาของการเป็นหนี้เสียในแต่ละช่วงเวลา ส่งผลให้ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” สามารถช่วยเหลือผู้ที่เป็นหนี้เสียและผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้เสียได้รวดเร็วขึ้น รวมไปถึงเงื่อนไขการผ่อนชำระและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ รวมทั้งระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยาวสูงสุดถึง 10 ปี ทำให้การแก้ไขปัญหาหนี้มีความเป็นไปได้มากขึ้น  ขณะที่ประชาชนเองก็เกิดความตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้สินของตัวเองมากขึ้น  นับว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของคนไทยให้ลดลงโดยเร็วและส่งผลให้จำนวนผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มสูงขึ้น โดยปี 2567 นี้ คาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกับโครงการฯ ได้ไม่น้อยกว่า 55,000 บัญชี

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เริ่มดำเนินการเมื่อเดือน มิ.ย. 60 ถึง 31 มี.ค.2567 ได้ช่วยเหลือคนไทยและอีกหลายชีวิตในแต่ละครัวเรือนปลดหนี้สิน สามารถลุกขึ้นยืน กลับมาดำเนินชีวิตและธุรกิจต่อไปได้  โดยมีจำนวนลูกค้าที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 2,047 ราย หรือ 5,037 บัญชี คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นตามสัญญาฯ รวมทั้งสิ้น 288 ล้านบาท หรือชำระหนี้เสร็จสิ้นไปแล้วร้อยละ 3.35 โดยลูกค้าส่วนใหญ่สามารถผ่อนชำระเสร็จสิ้นได้ก่อนกำหนดระยะเวลาตามสัญญา ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของ SAM ในการให้โอกาสลูกค้า สรุปจำนวนเงินที่ได้รับชำระจากลูกค้าใน “ โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ตลอด 7 ปีตั้งแต่เริ่มดำเนินการ คิดเป็นเงินรวมแล้วสูงถึง 2,700 ล้านบาท  นับว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM”  เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนและลดปริมาณหนี้เสียของระบบสถาบันการเงินในประเทศ  รวมทั้งช่วยเหลือ ฟื้นฟู และดูแลคนไทยที่มีปัญหาหนี้สินกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอย่างมั่นคง แข็งแรงโดยเร็วที่สุด  อันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม   


ทั้งนี้ เป็นที่น่าเสียดายว่ายังมีลูกค้าบางส่วนที่ต้องออกจากโครงการก่อนหมดระยะเวลาสัญญา เนื่องจากผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้น “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM”  จึงขอแจ้งให้ลูกค้าทราบว่า หากพบว่าตนเองเริ่มมีปัญหาการผ่อนชำระค่างวด และมีแนวโน้มว่าไม่สามารถทำตามเงื่อนไขของโครงการฯ ได้ ก็ขอให้รีบติดต่อกับโครงการเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป 

“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM”  ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียประเภทบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วัน ด้วยอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเพียงร้อยละ 3-5 ต่อปี และระยะเวลาผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปี โดยมีทางเลือกการปรับโครงสร้างหนี้ เป็น 3 ทางเลือก คือ  1. ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี   2. ผ่อนชำระนานกว่า 4 ปี ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี  3. ผ่อนชำระนานกว่า 7 ปี ไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี โดยมีคุณสมบัติของผู้สมัคร คือเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ มีอายุไม่เกิน 70 ปี มียอดหนี้รวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท

“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน (โซนลิฟท์แก้ว) ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ (BTS สถานีรัชโยธิน) หรือสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com  หรือ แอดไลน์ @debtclinicbysam และ Facebook คลินิกแก้หนี้ by SAM หรือติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่ Call Center 1443 .-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร