กรมการปกครองสั่งสอบคำให้สัมภาษณ์ปลัดอำเภอแม่สะเรียง

กรุงเทพฯ 17 พ.ค.- กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สั่งตรวจสอบคำให้สัมภาษณ์  ปลัดอำเภอแม่สะเรียง เรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องซื้อบริการเด็ก  เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่  พร้อมสั่งตรวจสอบตราสัญลักษณ์ ที่สหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย นำมาใช้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องหมายของวิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง หากพบว่าเป็นความผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย


ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง  กล่าวว่า กรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบ การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ของนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่สะเรียง   ช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกี่ยวกับ กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อบริการเด็กและการค้าประเวณีเยาวชน  นั้น จะตรวจสอบว่าการพูดหรือการกระทำของนาย บุญญฤทธิ์ ที่ให้ข้อมูลพาดพิงบุคคลหรือกลุ่มข้าราชการ หรือกลุ่มประชาชนต่าง ๆ เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎอยู่ หรือไม่ เข้าเงื่อนไขเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่   และหากผู้ใดนำข้อความหรือถ้อยคำของนายบุญญฤทธิ์ ไปเผยแพร่ ต้องระมัดระวังไม่ให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดกฏหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(17 พ.ค.) กรมการปกครอง ได้ออกเอกสารชี้แจงมีเนื้อหาระบุว่า ปลัดอำเภอ เป็นชื่อตำแหน่งข้าราชการในสังกัดกรมการปกครอง มีจำนวนกว่า 8,000 คน  ใน 76 จังหวัด 878 อำเภอทั่วประเทศ และมีเส้นทางทำงานที่จะเติบโตเป็นนายอำเภอ ปลัดจังหวัด ผู้บริหารกรมการปกครอง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ขณะที่ สหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เป็นเพียงการรวมตัวของปลัดอำเภอเพียงไม่กี่คนเท่านั้น  ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายรองรับ


ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ กรณีสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย ใช้ตราสัญลักษณ์ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องหมายของวิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้  หากพบว่าเป็นความผิดและนำไปสู่ความเสื่อมเสีย ก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรมการปกครอง ยืนยันว่า ไม่ปิดกั้นการรวมตัวของข้าราชการในสังกัด ในการที่จะเสนอแนวทางการพัฒนาองค์กร เส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ สวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์ของข้าราชการ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการในแนวทางที่ถูกต้อง แต่ต้องระมัดระวังในการให้ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบุคคล  หน่วยงาน และต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการ ภาพลักษณ์ขององค์กร และควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นและสาธารณชนเกิดความสับสน ซึ่งกรณีของ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หากมีข้อมูลหรือพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี ก็ควรไปให้ข้อมูลดังกล่าว ต่อพนักงานสอบสวน  หรือแจ้งให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และ เพื่อประกอบการพิจารณาตามขั้นตอนของกระบวนการดำเนินการทางวินัยของข้าราชการต่อไป.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง