ต้นไม้ขนาดใหญ่ในซอยชิดลมล้มพาดเสาสื่อสาร เสียชีวิต 1 ราย

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ในซอยชิดลมล้มพาดเสาสื่อสาร รถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านเสียชีวิต 1 ราย ด้านผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุต้องตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด


เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่หน้าอาคารอัลม่า ลิงค์ ติดกับศูนย์การค้าย่านชิดลม โค่นล้มพาดเสาสื่อสารหัก ภายในซอยชิดลม ก่อนออกถนนเพลินจิต ทับรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่าน ส่งผลให้คนขับเสียชีวิตคาที่ 1 ราย 

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเสาสื่อสารล้มทับรถจักรยานยนต์ พบผู้เสียชีวิตคือ นางสาวณัชชาพัชร์  สมเจษ คนขี่รถจักรยานยนต์ ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ถูกเสาสื่อสารขนาด 15 เมตรล้มทับ นอกจากนี้ยังมีรถแท๊กซี่ได้รับความเสียหายจากเสาสื่อสารพาดทับรถที่กระโปรงท้าย และยังพบเสาล้มอีก 2 ต้น ซึ่งมีรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 คันที่จอดอยู่หน้าอาคาร ได้รับความเสียหาย


ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ได้ประสานไปยัง กทม.ให้ตรวจสอบพื้นที่ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่และมีสภาพไม่ปลอดภัย ตรวจสอบไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้อีก เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกและลมแรง อาจเกิดอันตราย ซึ่งใกล้ช่วงเปิดเทอมแล้วด้วย และสั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งตรวจสอบสาเหตุว่าเกิดจากความประมาทของเจ้าของอาคารหรือไม่ หรือเกิดจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้หากประชาชนพบพื้นที่ใดมีต้นไม้ไม่ปลอดภัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังกรมป่าไม้ให้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นต้นไม้ชนิดใด

นายธนกฤต จิตรชัย คนขับรถแท็กซี่ ที่รถได้รับความเสียหายกระจกด้านหลังแตกและกระโปรงท้ายยุบ เล่าว่า ขณะขับรถผ่านจุดเกิดเหตุเป็นช่วงที่รถติดไฟแดง ได้ยินเสียงดัง และเห็นเสาสื่อสารโค่นจนล้มทับรถจักรยานยนต์ด้านหน้าที่ขับชลอและไม่ได้จอดสนิท จึงพยายามขยับรถหนีแต่ไม่ทัน ตนตกใจมากและรีบลงจากรถ จากนั้นไม่นานได้มีตัวแทนเจ้าของอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของต้นไม้ใหญ่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ระบุว่าพร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ขณะที่ด้านการไฟฟ้านครหลวง ระบุว่าบริเวณจุดเกิดเหตุในซอยชิดลมไม่มีไฟฟ้าดับเนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ในโครงการสายไฟใต้ดิน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางมรกต สนิทธางกูร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ กทม.ขนย้ายต้นไม้ กิ่งไม้ ออกจากพื้นที่เพื่อเปิดการจราจรในซอยชิดลม  .-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง