ช่วยผู้ประกอบการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถไมโครบัส

กรุงเทพฯ 10 พ.ค.-กระทรวงคมนาคมเตรียมเคาะแนวทางช่วยผู้ประกอบการรถตู้ เปลี่ยนรถมาเป็นรถไมโครบัส โดยประเมินต้นทุนจัดซื้อรถใหม่ของผู้ประกอบการอยู่ที่คันละ 1.7 ถึง 2.2 ล้านบาท


นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า  ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้นายพิชิตอัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมจะเป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหารถตู้โดยสารทั้งระบบ โดยในวาระการหารือ จะมีประเด็นเรื่องของการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ เปลี่ยนประเภทรถให้บริการจากรถตู้  13 ที่นั่ง มาเป็นรถไมโครบัส 20 ที่นั่งซึ่งนอกจากตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)บริษัทขนส่ง จำกัด(บขส.) และผู้แทนจากกระทรวงการคลังร่วมหารือแล้ว ยังมีตัวแทนจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้าร่วมด้วย


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายศึกษาต้นทุนในการเปลี่ยนรถให้แก่ผู้ประกอบการขณะนี้ได้ข้อสรุปว่า ต้นทุนของผู้ประกอบการที่จะต้องเปลี่ยนรถใหม่จะอยู่ที่คันละ 1.7 ถึง 2.2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับว่าใช้แชสซี  จากจีน หรือ ของประเทศอื่น  รวมทั้งแนวทางที่ผู้ประกอบการดำเนินการแล้ว จะสามารถประกอบธุรกิจอยู่รอดได้ เริ่มจากการให้วงเงินดาวน์ในการจัดซื้อรถ 30% การผ่อนชำระดอกเบี้ยเงินกู้ตั้งแต่ 3-5%  มีระยะการคืนทุนไม่เกิน 3 ปี และหากรถมีอายุการจดทะเบียนวิ่งให้บริการ 7 ปี ตามกรอบของกฎหมาย  ผู้ประกอบการก็จะมีช่วงเวลาในการทำกำไร 4 ปี ซึ่งก็ถือเป็นเงื่อนไขที่น่าสนใจ


และสำคัญที่สุดคือการบริหารจัดการการเดินรถในแต่ละเส้นทาง เนื่องจากตามแนวทางการจัดหารถนี้ การวิ่งเที่ยวรถแต่ละเที่ยวจะต้องมีผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยว (โหลด แฟคเตอร์) ไม่ต่ำกว่า 60% ผู้ประกอบการจึงจะสามารถอยู่รอดได้ ดังนั้นภาครัฐจะต้องเข้าไปช่วยกำกับ ให้แต่ละคิวรถมีปริมาณรถที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

ส่วนแนวทางดังกล่าวนี้จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการหรือไม่ เท่าที่มีการสอบถามความเห็นของผู้ประกอบการส่วนหนึ่งระบุว่า จะสนใจเปลี่ยนรถหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความแน่นอนของนโยบายของรัฐ โดยหากมีการเปลี่ยนรถแล้วสามารถวิ่งบริการได้ในระยะยาวก็ถือเป็นเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง