กกพ.ยืนยันขึ้นเอฟทีไม่สวนราคาก๊าซ

กรุงเทพฯ  3 พ.ค. – กกพ.ยืนยันปรับขึ้นเอฟทีงวด เม.ย.-ส.ค.ไม่สวนทางราคาก๊าซลด ย้ำพิจารณาผลกระทบรอบด้าน


นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยืนยันว่า กกพ.ยังคงมติให้ปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือนเมษายนถึงสิงหาคม 2560 ตามที่คำนวณไว้อย่างถูกต้องที่ให้ปรับขึ้น 12.52 สตางค์ต่อหน่วย

สำหรับกรณีที่ประชาชนบางส่วนรู้สึกว่าการปรับค่าเอฟทีครั้งนี้สวนทางราคาก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น กกพ.ยืนยันว่าราคาก๊าซช่วงขาลงเป็นจริงเฉพาะช่วงต้นปีในเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้น แต่ราคาก๊าซหลังจากนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยราคาก๊าซอ้างอิงราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 8-12 เดือนเพิ่มขึ้น ดังนั้น ราคาก๊าซจึงปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป ดังนั้น ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม 2560 จึงเป็นช่วงขาขึ้นของราคาก๊าซ อีกทั้งต้องดูราคาก๊าซภาพรวมด้วย การปรับขึ้นค่าเอฟทีครั้งนี้ของ กกพ.จึงไม่ได้เป็นการปรับขึ้นค่าเอฟทีที่สวนกระแสกับราคาก๊าซที่ลดลงแต่อย่างใด


ส่วนการปรับขึ้นค่าเอฟที ยังเป็นผลมาจากการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากเกินไปนั้น ข้อเท็จจริงช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2560 ลดลงจากงวดก่อนหน้า ทำให้ค่าเอฟทีงวดพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2560 ลดลง 1.20 สตางค์ต่อหน่วย จึงไม่ได้เป็นการแบกรับภาระการซื้อพลังงานทดแทนที่มากเกินไป จึงไม่ใช่แน่นอน และค่าไฟขึ้นน้อยกว่าเงินเฟ้อ ค่าบริการรายเดือนไฟฟ้า ที่มีต้นทุนค่าจดหน่วยไฟฟ้า การพิมพ์และจัดส่งบิลค่าไฟ เป็นต้น ก็เก็บต่ำกว่าต้นทุนในส่วนผู้ใช้บ้านอยู่อาศัยขนาดเล็ก ใช้เครื่องวัด 5 แอมป์ ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ส่วนผู้ที่ใช้ไฟฟ้าเกินกว่านี้จะเก็บตามต้นทุนจริง ด้านเงินประกันการใช้ไฟฟ้า กกพ.กำกับดูแลการไฟฟ้าต้องจ่ายคืนผลประโยชน์แก่ผู้ใช้ไฟฟ้ากรณีที่นำเงินสดมาเป็นหลักประกันการใช้ไฟฟ้า โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2557 

โฆษก กกพ.ย้ำว่าการปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือนพฤษภาคม-เดือนสิงหาคม 2560 กกพ.ได้พิจารณาผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนอย่างรอบด้านแล้ว เพราะหากไม่ปรับค่าเอฟทีรอบนี้จะกระทบค่าเอฟทีงวดต่อไปในเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม 2560 สูงขึ้นกว่ารอบนี้ และหาก กกพ.เลือกตรึงค่าเอฟทีงวดนี้ไว้ก็จะทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องรับภาระเป็นเงินถึง 7,786 ล้านบาท ท้ายที่สุดผู้ใช้ไฟก็ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าส่วนนี้คืน กฟผ.ในภายหลัง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง