กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – สำนักงานกองทุนน้ำมันฯ เตรียมเสนอประชุม กบน.เก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่ม หลังค่าการตลาดน้ำมันปรับสูง เหตุราคาน้ำมันดิบลดต่ำสุดในรอบ 4 ปี เตรียมเสนอภาพรวมต่อ กพช.พรุ่งนี้
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานฯ ติดตามสถานการณ์ ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด ที่ล่าสุดราคาน้ำมันดิบตลาดโลกวานนี้ปิดต่ำสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากกังวลเรื่องกำลังผลิตล้นตลาด เพราะความต้องการลดลงจากเหตุระบาดโรค COVID-19 และสงครามราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันขายปลีกของไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยทางคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มี รมว.พลังงาน เป็นประธาน จะมีการประชุมในเร็ว ๆ นี้ โดยจะพิจารณาว่าจะเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อให้กองทุนฯ มีเสถียรภาพดูแลราคาเชื้อเพลิงในอนาคต หลังล่าสุดมีการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียกเก็บเงินเฉพาะกกลุ่มดีเซลเข้ากองทุนฯ 50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งฐานะกองทุนฯ วันที่ 15 มีนาคม 2563 มีวงเงินสุทธิ 36,350 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 41,840 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 5,490 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันขายปลีกของไทยปรับลดลง รวม 6 ครั้ง กลุ่มเบนซินราคาลดลง 3.60 บาทต่อลิตร กลุ่มดีเซลลดลง 2.70 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นการลดลงตามราคาน้ำมันตลาดโลก อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) วันที่ 18 มีนาคม ระบุว่า ค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซินอยู่ในระดับสูงมาก โดยแก๊สโซฮอล์ค่าการตลาดอยู่ที่ 2.47-3.48 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซล บี 7 ,บี10 และบี 20 อยู่ที่ 1.85 ,2.14 และ 1.50 บาทต่อลิตร โดยอัตราที่ สนพ.ระบุว่าค่าการตลาดที่เหมาะสมนั้นอยู่ที่ 1.80 บาทต่อลิตร โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันในภาพรวม ทาง สนพ.จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค.)
ด้าน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงวานนี้ (17 มี.ค) โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิด 28.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล นับว่าเป็นการปรับตัวลดลงมาอยู่ระดับต่ำกว่า 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2559 หลังถูกกดดันจากความกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมันที่ปรับตัวลดลง จากการที่รัฐบาลหลายประเทศประกาศงดเว้นกิจกรรมและการเดินทาง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 และยังได้รับแรงกดดัน หลังสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซียยังคงดำเนินต่อ โดยรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียเผยว่าการส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียในเดือนเมษายน 2563 คาดว่าจะสูงกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเริ่มเก็บน้ำมันดิบสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบริษัทน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบตกต่ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดจับตาว่าหลังจากสหรัฐประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ที่ล่าสุดประกาศแจกเงินสดให้ประชาชนคนละ 1,000 เหรียญสหรัฐอย่างเร่งด่วนภายใน 2 สัปดาห์นี้ และมีแผนกระตุ้นอื่น ๆ รวมทั้งเลื่อนการชำระภาษี รวม 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐนั้น จะสร้างความเชื่อมั่นและอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น อย่างไรก็ตาม หลายนักวิเคราะห์คาดว่าหากซาอุดีอาระเบียยังลดกำลังผลิตตามที่ประกาศไว้ ก็อาจเห็นราคาน้ำมันดิบลดต่ำลงไปถึงระดับ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเร็ว ๆ นี้.- สำนักข่าวไทย
