กองทุนน้ำมันแจงลดราคาน้ำมันทุกชนิดชาวบ้านได้ประโยชน์

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แจงเสนอ “สนธิรัตน์” ลดราคาน้ำมันทุกประเภท 1 บาทต่อลิตร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ ดีกว่าลดเฉพาะบี10, อี20 ซึ่งมีผู้ใช้ปริมาณน้อย


หลังจาก กระทรวงพลังงานมีมาตรการลดราคาน้ำมันทุกชนิด 1 บาทต่อลิตร ในช่วงวันที่ 26 ธันวาคม 2562 – 10 มกราคม 2563 และผู้ค้าน้ำมันระบุว่าขาดทุนสตอก โดยเข้าใจว่าจะลดราคาเฉพาะบี 10,อี20 ที่ ตามนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เคยประกาศไปก่อนหน้านี้


นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวว่า ทางสำนักงานฯ ได้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มี รมว.พลังงานเป็นประธาน ขอให้ลดทุกประเภทน้ำมัน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ที่คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริงและ กบน. ได้เห็นชอบตามที่เสนอ  โดยหากลดเพียง 2 ชนิดน้ำมัน ผู้ได้ของขวัญจะมีจำนวนน้อย เพราะปั๊ม บี10 ในขณะนี้มีเพียง 511แห่ง จาก ปั๊มทั่วประเทศราว 3 หมื่นแห่ง ยอดใช้เพียง 5 แสนลิตร /วัน จากยอดใช้กลุ่มดีเซลโดยรวม 65 ล้านลิตร/วัน ส่วนผู้ใช้อี 20 มีราว 6.6 ล้านลิตร/วัน จากยอดใช้ กลุ่มเบนซินราว 32 ล้านลิตร/วัน

ทั้งนี้ การลดราคาทั้งหมด 1 บาท/ลิตร ครั้งนี้ เกิดจากลดจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯหน้าคลังน้้ำมัน 0.93 – 2.29 บาทต่อลิตร รวม 1, 383.52ล้านบาท ทางกองทุนฯไม่ได้เข้าไปจ่ายชดเชยแก่ผู้ค้าน้ำมันแต่อย่างใด โดยแม้ช่วงแรกผู้ค้าอาจขาดทุนสตอกบ้าง แต่ช่วงก่อนหมดเวลาลดเงินกองทุนฯคือวันที่ 9 ม.ค.63 ผู้ค้าก็จะสตอกเพิ่ม ซื้อจากหน้าคลัง ก็จะได้ประโยชน์จากช่วงเวลาดังกล่าว

นายวีระพล ย้ำว่า การบริหารกองทุนฯจะต้องมีวงเงินไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 24ธ.ค.62 มีวงเงินสุทธิ 38,409ล้านบาท หลังลดราคาน้้ำมัน 1 บาทต่อลิตรแล้วยังมีวงเงินสภาพคล่องเหลือ 37, 025 ล้านบาท จึงสามารถดูแลเสถียรภาพราคาพลังงานได้ และในส่วนของราคาก๊าซหุงต้มยังสามารถดูแลให้ราคาถัง 15 ก.ก. อยู่ที่ 363บาท ได้อย่างต่อเนื่อง 


ด้านกรมธุรกิจพลังงาน ระบุว่า โดยปกติแล้วราคาน้ำมันจะมีการปรับขึ้น – ลงตามกลไกตลาดเสรีอยู่ตลอดเวลาตามราคาในตลาดโลก ตามการแข่งขันเสรี ซึ่งภาครัฐจะทำหน้าที่ในการกำกับดูแลเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด และลดภาระที่อาจเกิดกับประชาชน

ในส่วนของกรมธุรกิจพลังงาน ขอยืนยันว่า จะกำกับดูแลให้ประชาชนมีน้ำมันใช้อย่างเพียงพอในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยน้ำมันมีคุณภาพตามมาตรฐาน และสถานีบริการน้ำมันมีความปลอดภัย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง