สกนช.พอใจราคาหน้าปั๊มลดลงไม่เรียกเก็บเงินเพิ่ม

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – สกนช.ตามติดสถานการณ์ราคาน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มตลาดโลกลดต่ำสุดในรอบ 4 ปี พอใจผู้ค้าไทยลดราคาลงตาม 7 ครั้งใน 10 วัน ไม่ต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่ม โดยให้ลดราคาน้ำมันเพื่อร่วมลดผลกระทบเศรษฐกิจประชาชน

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผย จากที่ผู้ค้าน้ำมันประกาศปรับลดราคาน้ำมันล่าสุดวันนี้ (18 มี.ค.) ลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินพรุ่งนี้ 60 สตางค์/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เห็นได้ว่าผู้ค้าน้ำมันปรับราคาตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลง ซึ่งดูภาพรวมแล้วไม่ต้องเสนอให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อเรียกเงินเพิ่มเข้ากองทุนฯ แต่อย่างใด โดยรวมแล้ว 10 วันนี้ มีการประกาศลดราคาน้ำมัน 7 ครั้ง กลุ่มเบนซินลดลง 4.20 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลลดลง 2.70 บาท/ลิตร

“เมื่อผู้ค้าน้ำมันลดราคาสะท้อนต้นทุน ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้น สกนช.จึงเห็นว่าราคาน้ำมันควรปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์โลกลดลงตามข้อเท็จจริง เพื่อลดผลกระทบของประชาชน จึงยังไม่จำเป็นต้องเก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่มแต่อย่างใด” นายวีระพล กล่าว

นายวีระพล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี ล่าสุดขณะนี้ราคาตลาดตะวันออกกลางหรือซีพีอยู่ที่ประมาณ 260 เหรียญสหรัฐ/ตัน นับว่าเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 4 ปี เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามราคาน้ำมันและผลกระทบ COVID-19 เช่นกัน ซึ่งราคาก๊าซหุงต้มลดลง ทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนบัญชีก๊าซหุงต้มมีเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้น จากเดิมประมาณว่าจะมีเงินไหลเข้าประมาณ 130 ล้านบาท/เดือน  อย่างไรก็ตาม จากการอุดหนุนราคาแอลพีจีในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บัญชีก๊าซหุงต้มยังคงติดลบ โดยฐานะกองทุนฯ วันที่ 15 มีนาคม 2563  มีวงเงินสุทธิ 36,350 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน  41,840 ล้านบาท และบัญชี ก๊าซหุงต้มติดลบ 5,490 ล้านบาท. -สำนักข่าวไทย